All posts by zine boxwedding

5 โลเคชั่นยอดฮิตในกรุงเทพที่เหมาะกับการไปถ่ายพรีเวดดิ้ง

 

ปัจจุบันเทรนด์การถ่ายพรีเวดดิ้งกลายเป็นธรรมเนียมปฎิบัติสำหรับคู่บ่าวสาวทุกคู่ไปแล้ว เพราะนอกจากทั้งคู่จะเก็บไว้ดูเป็นความทรงจำแล้ว ยังสามารถนำรูปมาประดับตกแต่งในงานแต่งงานได้อีกด้วย แต่ปัญหาหลักอย่างหนึ่งในการถ่ายพรีเวดดิ้ง คือ “สถานที่” คู่บ่าวสาวหลายๆคู่ คิดไม่ตกว่าจะไปถ่ายที่ไหนดี บางคู่อยากถ่ายพรีเวดดิ้งที่ในประเทศไทย แต่ยังลังเล เลือกไม่ถูกว่าจะไปถ่ายที่ไหนดี วันนี้ Box wedding รวบรวมเอา 5 สถานที่ ถ่ายพรีเวดดิ้งในประเทศ ที่สวยๆ ยอดฮิต มาแนะนำกันค่ะ จะมีที่ไหนบ้าง ไปอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ…

 

1.Benedict Studio

เชื่อว่าเป็นสถานที่ที่หลายคนคุ้นหูคุ้นตา เพราะที่นี้ใช้ถ่ายละคร ภาพยนตร์ มิวสิคเพลงยอดนิยมต่างๆมากมาย และยังใช้เป็นสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง จัดงานแต่งงานอีกด้วย มีมุมถ่ายรูปสวยๆ และเป็นเอกลักษณ์ ทำให้คนจำนวนมากเลือกมาใช้สถานที่แห่งนี้ในการถ่ายภาพ  ใครเลือกไปถ่ายภาพที่นี่ แนะนำให้พกชุดราตรี ชุดหางยาวไปถ่าย (ชุดไปรเวทไม่เหมาะอย่างยิ่ง) งานจะออกมาดูสวยหรู สวยแพง แน่นอน

 

2. ร้าน Misstar Cafe by Davika

เป็นร้านคาเฟ่ของคุณใหม่ดาวิกา ที่นอกจากจะเปิดขายอาหารและเครื่องดื่มแล้ว ยังให้เช่าสถานที่ในการถ่ายภาพอีกด้วย  ทางเข้าของร้านดูเป็นบ้านทรงยุโรปหลังใหญ่ เสริมความโดดเด่นด้วยน้ำพุสไตล์การจัดสวนแบบต่างประเทศ พร้อมต้นไม้รายล้อมในสวน ส่วนของ คาเฟ่อยู่ในเรือนกระจกสีขาวรายล้อมด้วยต้นไม้สีเขียวเขียว แต่ละมุมตกแต่งน่ารัก เข้ากับคนที่ชอบถ่ายรูปอย่างมาก ภายในตัวร้านดูสว่างสบายตา เหมาะอย่างยิ่งกับการไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง

 

3. พระที่นั่งอนันตสมาคม 

พระที่นั่งอนันตสมาคม พระที่นั่งที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก ที่นี่สามารถถ่ายรูปได้เฉพาะบริเวณด้านนอกพระที่นั่งเท่านั้น ด้านนอกเดินเล่นถ่ายรูปได้ฟรี บริเวณด้านนอกมีข้อห้าม 3 อย่าง คือ ห้ามถ่าย VDO และห้ามเดินลัดสนามหญ้า เดินบนสนามหญ้า และที่สำคัญที่สุด คือ ห้ามเดินผ่านเข้าไปในบริเวณที่มีกรวยยางขวางไว้ เพราะนั่นเป็นเขตพระราชฐาน ใครที่จะมาที่นี่แนะนำให้มาถึงเวลา 9.45 น. เพราะประตูจะเปิดให้เข้าไปซื้อตั๋วด้านในเพื่อชมด้านในพระที่นั่ง (ประตูด้านรัฐสภา) แต่ถ้าใครอยากถ่ายภาพตอนเย็น ๆ หน่อย ก็สามารถมาได้ เพราะที่นี่จะปิดถนนไม่ให้รถผ่าน เหมาะอย่างมากกับการไปถ่ายพรีเวดดิ้งนะคะ

 

4. ถนนอุทยาน หรือ ถนนอักษะ

ถนนอุทยาน หรือที่ชาวบ้านเรียกจนติดปากมาตั้งแต่ดั้งเดิมว่า   ถนนอักษะ เป็นถนนที่สวยที่สุดในประเทศไทยเป็นถนนสายตรง ที่มุ่งตรงสู่พุทธมณฑล  และแนวสายตรงของถนน อยู่ตรงกึ่งกลาง องค์พระประธาน แห่งพุทธมณฑล ยามคํ่าคืนจะเปิดไฟยาวตลอดทั้งเส้นทาง เงียบสงบ และเดินทางสะดวก ใครที่กำลังมองหาสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งสวยๆ ลองไปถ่ายที่ถนนอักษะกันดูนะคะ

 

5. สถานีดับเพลิงบางรัก

อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ซอยเจริญกรุง36 นะคะ ตัวอาคารออกแบบสไตล์โกธิค ค่อนข้างเก่าแก่อยู่นะ ถ่ายออกมาแล้วจะดูอาร์ตๆหน่อย เหมาะกับการถ่ายพรีเวดดิ้งในแบบคลาสสิคหน่อยๆ จะสวยมากเลยค่ะ แล้วอยากจะบอกคุณตากล้องนิดนึงว่า กรุณาเตรียมไฟมาด้วยนะ เพราะข้างในค่อนข้างมืด สถานีเปิดทำการทุกวันค่ะ

 

เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ กับ “5 โลเคชั่นยอดฮิตในกรุงเทพที่เหมาะกับการไปถ่ายพรีเวดดิ้ง” ที่ Box wedding เอามาฝากกันในวันนี้ หวังว่าจะช่วยเป็นไอเดียให้คู่บ่าวสาวทุกคู่ๆ ในการตัดสินใจเลือกสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งนะคะ คราวหน้า Box wedding จะนำสาระ ความรู้ สิ่งที่น่าสนใจอะไรมาฝาก อย่าลืมรอติดตามกันด้วยนะคะ ถ้าชอบอย่าลืมกดไลค์กดแชร์ แทคให้เพื่อนๆกันได้นะคะ

 

 

เขียนโดย Box Wedding

ภาพโดย Jakawin Photography

“8 ประเทศ” ถ่ายพรีเวดดิ้งยอดฮิตที่คู่บ่าวสาวไม่ควรพลาด

 

ปัจจุบันเทรนด์การถ่ายพรีเวดดิ้งกลายเป็นธรรมเนียมปฎิบัติสำหรับคู่บ่าวสาวทุกคู่ไปแล้ว เพราะนอกจากทั้งคู่จะเก็บไว้ดูเป็นความทรงจำแล้ว ยังสามารถนำรูปมาประดับตกแต่งในงานแต่งงานได้อีกด้วย แต่ปัญหาหลักอย่างหนึ่งในการถ่ายพรีเวดดิ้ง คือ “สถานที่” คู่บ่าวสาวหลายๆคู่ คิดไม่ตกว่าจะไปถ่ายที่ไหนดี บางคู่อยากถ่ายพรีเวดดิ้งที่ต่างประเทศ แต่ยังลังเล เลือกไม่ถูกว่าจะไปประเทศไหนดี วันนี้ Box wedding รวบรวมเอา 8 สถานที่ ถ่ายพรีเวดดิ้งต่างประเทศ เก๋ๆ สวยๆ มาแนะนำกันค่ะ จะมีประเทศไหนบ้าง ไปอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ…

 

1.ฝรั่งเศส

เรียกว่าเป็นโลเคชั่นสุดฮอตที่สุดก็ว่าได้  เรียกว่าเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักเดินทางจากทั่วโลก รวมถึงเป็นสถานที่ฮันนีมูนสุดโรแมนติก ที่สำคัญเป็นโลเคชั่นอันดับต้น ๆ ของการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งอีกด้วย อย่าง “ลิเดีย-แมททิว” ก็บินไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งกันที่หอไอเฟลแห่งนี้ด้วยเช่นกัน และมีคู่รักจำนวนมากเลือกให้สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง เก็บภาพความทรงจำ

 

2. ออสเตรเลีย 

ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีความพิเศษและมีความหลากหลายในตัวเองเป็นอย่างมาก ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว สังคม ธรรมชาติ รวมไปถึงวัฒนธรรมด้วย ประเทศออสเตรเลียเป็นเกาะมีมหาสมุทรอินเดียอยู่ทางฝั่งซ้ายและมหาสมุทรแปซิฟิกทางฝั่งขวา มีเนื้อที่กว้างใหญ่มากถึง 16 ล้านตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศมีตั้งแต่ทะเลทราย, ป่าดิบชื้น รวมไปถึงชายหาดที่คับคั่งไปด้วยผู้คนมากมาย มีสถานที่สวยๆ สวยงามทั้งกลางวันและยามคํ่าคืน เหมาะอย่างยิ่งกับการไปถ่ายพรีเวดดิ้ง

 

3. สหรัฐอเมริกา

นอกจากจะเป็นประเทศใหญ่ มหาอำนาจทางเศรษฐกิจแล้ว ต้องบอกว่าที่ อเมริกา นี้ ยังเป็นจุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั่วโลกอีกด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติที่สวยงามแปลกตา ไม่มีที่ไหนเหมือนในโลก ถนนสายช้อปปิ้งของแบรนด์เนม รวมไปถึงการเดินทางที่ไม่ยากลำบาก ตามเรามาดูกันว่า ถ้าได้ไปเที่ยวถึง อเมริกา แล้ว ที่ไหนเป็นที่เที่ยวที่ต้องไม่พลาดกันบ้าง

 

4. อังกฤษ

ประเทศอังกฤษ หรือ เมืองผู้ดีที่หลายๆคนพูดถึง เป็นประเทศเล็กๆที่อยู่ในเครือสหราชอาณาจักรเป็นประเทศที่มีความเจริญอันดับต้นๆของโลก สถานที่ท่องเที่ยวของอังกฤษนั้นส่วนใหญ่จะเป็นปราสาท, ธรรมชาติ หรือสิ่งปลูกสร้างทางประวัติศาสตร์ชาติอังกฤษ ซึ่งด้วยขนาดของประเทศที่ไม่ใหญ่นักทำให้ไปสถานที่ต่างๆได้ง่าย และเหมาะอย่างยิ่งกับการไปถ่ายพรีเวดดิ้ง

 

5. เยอรมัน

เยอรมันเป็นประเทศที่มีความเจริญเป็นอับดับต้นๆของโลกในหลายๆด้าน ทั้งเทคโนโลยี สถาปัตยกรรม และอื่นๆอีกมากมาย แต่ก็ยังมีความสวยงามของธรรมชาติและมนต์ขลังของอาคารสิ่งปลูกสร้างยุคโบราณ ที่น่าค้นหาและชวนให้ไปเที่ยวเป็นอย่างมาก ซึ่งทำให้เยอรมันกลายเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวกัน ปีละนับไม่ถ้วน

 

6. สวีเดน

สวีเดนนอกจากจะเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงในด้านการออกแบบแล้ว สวีเดนยังเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางจำนวนมากปราถนาจะมาเยือนสักครั้งในชีวิต เพราะดินแดนแห่งนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ และยังคงเก็บรักษาสถาปัตยกรรมเก่าแก่จากยุคกลางไว้เป็นอย่างดี ใครชอบบรรยากาศสงบเรียบง่าย รายล้อมไปด้วยทิวทัศน์อันงดงาม อย่าลืมปักหมุดสวีเดนไว้ในแผนการถ่ายพรีเวดดิ้งของคุณ

 

7. สวิสเซอร์แลนด์

สวิสเซอร์แลนด์เป็นประเทศเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่กลางทวีปยุโรป น่าแปลกใจที่ประเทศที่อุดมสมบูรณ์นี้ไม่มีชายแดนที่ติดทะเลเลยแม้แต่นิดเดียว แต่สิ่งที่ได้ทดแทนมาก็คือ ภูเขาน้อยใหญ่มากมายที่เป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่ล้ำค่า อุดมไปด้วยป่าไม้นานาพรรณในฤดูร้อน และเต็มไปด้วยหิมะที่สวยงามน่าค้นหาในฤดูหนาว  นอกจากนี้บ้านเรือนและสถาปัตยกรรมของสวิสเซอร์แลนด์ก็ยังสวยงามน่าหลงไหล มีทั้งความน่ารัก แฝงอยู่ท่ามกลางความยิ่งใหญ่ของสิ่งก่อสร้างหลายแห่งที่ก่อเกิดตำนานเรื่องเล่ามากมาย

 

8. รัสเซีย

ถ้าคุณอยากไปเที่ยวยุโรป แต่ไม่สะดวกและไม่มีเวลาขอวีซ่า คำตอบที่ง่ายที่สุดก็คือ เลือกไปเที่ยวในประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่าดีกว่าค่ะ ซึ่งประเทศในทวีปยุโรปที่นักท่องเที่ยวชาวไทยไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าเข้าประเทศ มีอยู่ 2 ประเทศ ได้แก่ รัสเซีย และตุรกี โดยสามารถพำนักได้ไม่เกิน 30 วัน หากคุณชอบบรรยากาศแดนหมีขาว อากาศหนาวๆ บรรยากาศวัฒนธรรมยุโรปของประเทศรัสเซีย ต้องไม่พลาดที่จะไปถ่ายพรีเวดดิ้งที่รัสเซียกันนะคะ

 

เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ กับ “8 ประเทศถ่ายพรีเวดดิ้งยอดฮิตที่ไม่ควรพลาด” ที่ Box wedding เอามาฝากกันในวันนี้ หวังว่าจะช่วยเป็นไอเดียให้คู่บ่าวสาวทุกคู่ๆ ในการตัดสินใจเลือกสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งนะคะ คราวหน้า Box wedding จะนำสาระ ความรู้ สิ่งที่น่าสนใจอะไรมาฝาก อย่าลืมรอติดตามกันด้วยนะคะ ถ้าชอบอย่าลืมกดไลค์กดแชร์ แทคให้เพื่อนๆกันได้นะคะ

 

เขียนโดย Box Wedding

ภาพโดย Jakawin Photography

 

ไม่อยากเชยต้องดู “5 แบบชุดไทยเจ้าสาว”

 

นอกจากชุดแต่งงานสีขาว ฟูฟ่องที่สาว ๆ หลายคนใฝ่ฝันแล้ว ถ้าเลือกที่จะจัดแต่งงานแบบไทย ๆ เจ้าสาวก็ยังต้องมองหาชุดไทยมาเป็นชุดเจ้าสาวอีกหนึ่งชุด แต่หลายคนยังไม่ค่อยรู้ว่าจริง ๆ แล้วชุดไทยเจ้าสาวมีแบบไหน ยังไง แล้วแบบไหนถึงจะเหมาะกับเจ้าสาวอย่างคุณมากที่สุด ยิ่งช่วงนี้ชุดไทยเจ้าสาวมีหลายแบบ หลายสไตล์ แถมยังมีเฉดสีให้เลือกมากมายเพื่อให้เข้ายุคเข้าสมัยมากขึ้น  Box Wedding ขอรวบรวมแบบชุดไทยเจ้าสาวยอดนิยมมาฝากกันค่ะ

 

  • ชุดไทยจักรี

เป็นชุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับเจ้าสาว มีลักษณะเป็นชุดไทยแบบห่มสไบ ท่อนบนห่มสไบชายเดียวปักดิ้นทอง เปิดบ่าข้างหนึ่ง ชายสไบคลุมทั้งชายด้านหลังยาวตามความเหมาะสม ซิ่นตัดแบบหน้านาง มีจีบยกข้างหน้า มีชายพก ใช้ผ้ายกมีเชิงหรือยกทั้งตัว คาดเข็มขัดไทย เครื่องประดับตามสมควร เช่น ต่างหู สร้อยคอ รัดแขน สร้อยข้อมือ

 

 

  • ชุดไทยจักรพรรดิ

เป็นชุดไทยสำหรับสตรีสูงศักดิ์ในสมัยโบราณ ห่มสไบคล้ายชุดไทยจักรี แต่ท่อนบนมีสไบจีบรองสไบทึบ ปักเต็มยศด้วยลูกปัดสีทองบนสไบชั้นนอก ผ้าซิ่นใช้ไหมยกดิ้นทอง มีเชิงสีทอง ตัดแบบหน้านาง มีชายพก ชุดไทยจักรพรรดิควรมีเครื่องประดับค่อนข้างเต็มยศ เช่น รัดแขน รัดเกล้า สร้อยสังวาลย์ สร้อยข้อมือ ต่างหู สร้อยคอต่าง ๆ

 

  • ชุดไทยดุสิต

เป็นชุดไทยประยุกต์ที่ลักษณะตัวเสื้อเป็นแบบคอด้านหน้า-หลังคว้านกว้าง แขนกุด ลวดลายสวยงามแต่งด้วยลูกปัด ไข่มุก หรือเลื่อม ซิ่นเป็นผ้าไหมยกดิ้นทอง ลายดอกพิกุล ตัดแบบหน้านาง มีชายพก ใช้เครื่องประดับอย่างไทยหรือตะวันตกได้ตามเหมาะสม เป็นชุดไทยที่มักใช้ในงานตอนค่ำ

ภาพจาก WE Magazine

 

  • ชุดไทยบรมพิมาน

ตั้งชื่อตามพระที่นั่งบรมพิมาน เป็นเสื้อคอกลม ขอบตั้ง แขนยาว ผ่าด้านข้างหรือด้านหลัง ซิ่นจีบหน้ามีชายพก มักใช้สำหรับงานพิธีค่ำ หรือใช้เป็นชุดเจ้าสาวในพิธีพระราชทานน้ำสังข์ ถ้าเจ้าสาวเลือกชุดไทยบรมพิมาน จำเป็นต้องคาดเข็มขัดทอง สวมสร้อยคอ ต่างหู สร้อยข้อมือและเกี้ยว ประดับผมด้วย

 

  • ชุดไทยประยุกต์

เป็นชุดที่ประยุกต์ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น ชุดไทยลักษณะนี้เป็นที่นิยมสำหรับเจ้าสาวค่อนข้างมาก เนื่องจากมีแพทเทิร์นสวย ๆ มีงานดีไซน์เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ยังคงความเป็นไทยไว้อย่างครบถ้วน ส่วนใหญ่จะใช้ผ้าไทย ผ้าไหม ผ้าลูกไม้มาทำเป็นตัวเสื้อ ส่วนผ้าซิ่นจะเป็นแบบไทยดั้งเดิม มีจีบหน้านาง ชุดไทยประยุกต์แบบนี้เหมาะกับงานแต่งงานช่วงเช้ามากที่สุด

 

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อนๆกับรูปชุดไทยเจ้าสาวหลากหลายแบบ ที่เอามาฝากกันในวันนี้ หวังว่าจะเป็นไอเดียให้เพื่อนๆที่กำลังมองหาชุดไทยแต่งงาน สามารถเลือกชุดไทยที่เหมาะกับตนเองได้นะคะ ครั้งหน้า Box wedding จะเอาความรู้ สาระ อะไรดีๆมาฝากอีก รอติดตามกันนะคะ  ^^

 

เขียนโดย Box wedding 

รูปภาพ โดย Jakawin photography & Box wedding

Tel. 089 669 9665

6 ความเชื่อที่ควรทำตาม ถ้าอยากให้ชีวิตแต่งงานราบรื่น

 

เรื่องของความเชื่อต่างๆ อยู่คู่กับคนไทยมาตั้งแต่โบราณ มากน้อยก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ในปัจจุบันก็ยังคงมีความเชื่อต่างๆ ที่ยังยึดถือปฏิบัติสืบเนื่องกันมาอยู่ โดยเฉพาะเรื่องของการแต่งงาน มีความเชื่อต่างๆ มากมาย ทั้งสิ่งที่ควรทำ ข้อห้ามที่ควรละเว้น วันนี้ Box wedding เอาความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับพิธีการแต่งงานมาบอกให้เพื่อนๆทราบกันค่ะ จะมีความเชื่อเรื่องอะไรบ้างนั้นไปอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ

 

               1.  ความเชื่อเรื่องการกั้นประตูเงิินประตูทอง

ในพิธีแต่งงานทั้งแบบไทยและจีน จะมีการกั้นประตูเงินประตูทอง หรือประตูนาก เพราะเชื่อว่าเจ้าบ่าวจะมีเงินทอง สามารถเลี้ยงดูเจ้าสาวได้ พ่อแม่ไว้วางใจยกลูกสาวให้ดูแลแทนได้

 

           2. ความเชื่อเรื่องการเลือกเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว

ควรเลือกที่อายุน้อยกว่าหรือใกล้เคียงกับคู่บ่าวสาว และเพื่อนคนนั้นอยู่ในช่วงที่ใกล้จะแต่งงานเร็วๆ นี้เช่นกัน เพราะหากเป็นคนโสดอาจต้องโสดตลอดไป แต่ในความจริงแล้วเป็นเพราะต้องการให้เพื่อนที่กำลังจะแต่งงานได้ดูพิธีการอย่างใกล้ชิดเมื่อถึงคราวตนเองจะได้รู้สึกชิน ฝรั่งเค้าถือว่าหากใครเป็นเพื่อนเจ้าสาวถึง 3 ครั้ง เชื่อว่าจะไม่ได้เป็นเจ้าสาวอีกต่อไป

 

          3. ความเชื่อเรื่องการรดนํ้าสังข์

การเสร็จจากการหลั่งน้ำสังข์แล้วหากใครลุกขึ้นก่อนคนนั้นจะได้อยู่เหนือคู่ครอง ทางที่ดีควรช่วยประคองกันลุกขึ้นดีกว่าจะได้ใช้ชีวิตไปด้วยกัน ประคับประคองกันไป

         

         4. ความเชื่อเรื่องขบวนขันหมาก

ควรเชิญผู้ใหญ่ที่เคารพ และเป็นคนที่ทีมีชีวิตครอบครัวที่ดี มาเป็นคนนำขบวนขันหมาก หรือการส่งตัวเข้าหาเพื่อให้ชีวิตของคู่บ่าวสาวจะได้ดีเหมือนผู้ใหญ่ที่เชิญมาอวยพร และเมื่อเจ้าบ่าวแห่ขันหมากมา พ่อแม่เจ้าสาวต้องหลบไปก่อนห้ามเผชิญหน้ากับขบวนขันหมาก เพราะเชื่อว่าต่อไปอาจจะมีเรื่องไม่ลงรอยกัน

  

       

        5. ความเชื่อเรื่องการแต่งหน้าคู่บ่าวสาว

เจ้าบ่าว เจ้าสาว ไม่ควรแต่งหน้าเอง เพราะเชื่อว่าแต่งงานไปแล้วจะทำมาหากินลำบาก

         

           6. ความเชื่อเรื่องการสวมแหวน

เมื่อถึงเวลาสวมแหวน หากเจ้าบ่าวทำแหวนหล่น หรือสวมแหวนไม่สุด แล้วต้องให้เจ้าสาวช่วยสวม เชื่อกันว่าเจ้าบ่าวผู้นั้นต้องตกอยู่ในอำนาจของเจ้าสาวตลอดกาลนาน ข้อนี้เจ้าสาวต้องจ้องให้ดีเลยหละ ถ้าเจ้าบ่าวพลาดเมื่อไหร่รีบเลย และหาเจ้าสาวเห็นเจ้าบ่าวก่อนที่เค้าจะเห็น ก็จะมีอำนาจเหนือเจ้าบ่าวด้วยเช่นกัน ดังนั้นจับจ้องเจ้าบ่าวให้ดีก็แล้วกัน

 

ความเชื่อต่างๆ ในปัจจุบันอาจลดน้อยลงไปบ้าง แต่ก็ยังมีคนทำตามกันอยู่ เพราะการแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญของทุกๆ คู่ ถือเป็นการเริ่มต้นชีวิตคู่ และต้องอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต หลายๆคู่จึงอยากทำวันแต่งงานให้ดีที่สุด และสมบูรณ์แบบที่สุด แต่สุดท้ายแล้วสิ่งสำคัญของการแต่งงานคือ ความรัก ความเข้าใจ ความซื่อสัตย์ และการให้อภัยซึ่งกันและกันของคู่บ่าวสาว หากมีครบแล้วก็จะทำให้ชีวิตคู่อยู่กันได้ยืดยาวและมีความสุขอย่างแน่นอน

 

เขียนโดย Box wedding 

ภาพ โดย Jakawin Photography

Tel. 089 669 9665

อาหารมงคลที่ควรมีอย่างยิ่งในงานแต่งงาน

 

งานแต่งงานตามประเพณีไทยต้องมาคู่กับความเชื่อของคนไทยในสมัยโบราณซึ่งเชื่อกันว่างานแต่งงานงานคืองานมงคล ดังนั้นทุกอย่างในงานก็ต้องเป็นของมงคลด้วย โดยเฉพาะ  “อาหาร ” ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญอย่างหนึ่งในพิธีงานแต่งงาน ควรเลือกอาหารที่มีความหมายดีๆ เพื่อความเป็นสิริมงคลด้วยเช่นกัน

วันนี้ Box wedding จะมาแนะนำให้รู้จักกับ  “อาหารมงคลที่ควรมีในงานแต่งงาน “ให้เพื่อนๆหรือคู่บ่าวสาวได้ทราบ และสามารถนำเอาความรู้นี้ไปปรับใช้ในงานแต่งงานของทุกๆคู่นะคะ จะมีอาหารมงคลอะไรบ้างนั้น เราไปลองอ่านกันเลยค่ะ…

 

  • ขนมจีบ เรียกได้ว่า ขนมจีบ เป็นตัวแทนของคู่รัก และความรัก ยิ่งคู่สามีภรรยาที่แต่งงานกันมานานหลายปี จนเกิดความเบื่อหน่ายกันบ้าง แนะนำให้หาขนมจีบมากินเป็นการแก้เคล็ด เพื่อให้ความรักหวานชื่นเหมือนในช่วงที่จีบกันใหม่ๆค่ะ

   ภาพจาก http://easymenutoday.blogspot.com/2013/08/blog-post_5520.html

 

  • ห่อหมก คนไทยนิยมนำมาจัดวางไว้ในพิธีแต่งงาน เพราะอยากให้บ่าวสาวได้รักกันยาวนาน ไม่มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง ให้ต้องรำคาญใจ ดังสำนวนที่ว่า “เออออห่อหมก”

             ภาพจาก http://cookingdiary.fanthai.com/?p=494

 

  • ขนมจีนน้ำยา ถือเป็นอาหารสำคัญในงานแต่งงานในสมัยก่อนเลยก็ว่าได้ เส้นขนมจีนต้องเป็นเส้นยาว ห้ามตัดให้ขาดเพราะเชื่อว่าเส้นขนมที่ยาวจะทำให้ครองรักกันยืนยาว และผักเครื่องเคียงก็ต้องเป็นผักชื่อมงคล เช่น ถั่วงอก เพราะ ให้ความหมายในเรื่องของความเจริญงอกงาม ความก้าวหน้า ในหน้าที่การงานและด้านการค้าขาย ให้ร่ำรวยเงินทองยิ่งๆขึ้นไป

  ภาพจาก http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=jazzy-bong&month=04-10

 

  • ข้าวเหนียว เพื่อสื่อถึงความรักที่เหนียวแน่นยืนนานจะครองรักกันยาวนาน

        ภาพจาก https://img.kapook.com/u/2016/surauch/home/c6.jpg

 

  • ลาบ  คำว่า ลาบ  อ่านเหมือนกับคำว่า ลาภ  ซึ่งคนเรานิยมนำไปเลี้ยงในงานพิธีต่างๆ หมายถึงความโชคดี ลาภลอย การได้มาโดยคาดไม่ถึง ไม่ได้คาดหมายมาก่อน

                       ภาพจาก Jakawin Photography

 

  • แกงฟักทอง  เป็นอาหารที่มีกะทิผสมอยู่ด้วย มีรสชาติกลมกล่อม ซึ่งจะนำฟักทองมาทำเป็นแกงใส่หมู หรือ ไก่ตามชอบ ความหมายของฟักทองหมายถึง การเกิดสิ่งที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น คำว่าฟัก หมายถึงการเริ่มต้นในการให้กำเนิด การเกิดสิ่งใหม่ๆ มีการฟูมฟักดูแลอย่างดี ทอง เป็นสิ่งของที่มีมูลค่ามาก เมื่อคำว่า ฟักทอง มารวมกันหมายถึงการกำเนิดสิ่งใหม่ๆ ที่มีคุณค่ามาก เกิดขึ้น แกงฟักทองนิยมทำในงานแต่งงาน

       ภาพจาก http://www.lumdee.com/th/2016/07/27/%E0%B9%81%E0%

 

  • ผัดหมี่ เป็นอาหารที่เป็นมงคลอีกอย่างหนึ่งซึ่งเราจะเห็นในทุกๆ งาน เพราะ ผัดหมี่สีแดง หมายถึงความสุขสมหวัง เกี่ยวกับความรักก็คือความหลงใหล รักใคร่ยาวนาน และยังหมายถึงการมีอายุยืนยาวเหมือนเส้นหมี่อีกด้วย และในผัดหมี่จะมีถั่วงอกอยู่ด้วยซึ่งก็จะหมายถึงความรักและการงานที่งอกงาม มีความเจริญก้าวหน้า และยืนยาวตลอดไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

               ภาพจาก https://pantip.com/topic/32407210

 

  • ต้มจืด  เป็นอาหารที่ขาดแทบไม่ได้ในงานพิธีต่างๆ เพราะ ต้มจืดเปรียบเหมือนตัวแทนแห่งความคล่องแคล่วและความสุข เป็นการซดน้ำร้อนๆ แบบคล่องคอ ทำให้ชีวิตราบลื่นไม่มีอุปสรรคใดๆ ถ้าใส่วุ้นเส้นไปด้วยก็ทำให้ชีวิตยืนยาวอีกด้วย หรือถ้าใส่สาหร่ายก็ยิ่งดี เพราะสาหร่ายหมายถึงความร่ำรวยความมั่งคั่ง ถ้ามีทั้งวุ้นเส้นและสาหร่ายก็จะหมายถึงชีวิตที่ราบรื่น ยืนยาว ร่ำรวยและมั่งคั่งไม่มีที่สิ้นสุด

          ภาพจาก https://cookpad.com/th/search/%E0%B8%95%E0%B9%89

 

ด้านขนมหวาน ก็ต้องเป็นขนมหวานมงคลด้วยเช่นกัน

  • ลอดช่องน้ำกะทิ เชื่อว่าทำให้มีความรักยืนยาว ประสบความสำเร็จในชีวิตคู่ จะทำการอันใดก็ลื่นไหลไปได้ด้วยดี

                ภาพจาก https://pantip.com/topic/33771396

 

  • ข้าวตอกน้ำกะทิ ที่มีความหมายว่าความรักที่เบ่งบานเหมือนกับข้าวตอก และหวานชื่นเหมือนน้ำกะทิ

  ภาพจาก http://zazukichadjuing.blogspot.com/2015/07/blog-post_14.html

 

  • เม็ดแมงลักน้ำกระทิ เม็ดแมงลักมีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ จับกันเป็นแพ เชื่อว่าให้บ่าวสาวมีลูกหลานเต็มบ้านครอบครัวอบอุ่น

          ภาพจาก https://cooking.kapook.com/view126298.html
  •  ขนมหวานมงคบ 9 ชนิด  คนไทยรู้จักกันในงานมงคลต่างๆเกือบทุกงาน ต้องห้ามพลาดที่จะจัดไว้สำหรับเลี้ยงพระ เลี้ยงแขก เช่น
    • ทองหยิบ หมายถึง หยิบจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง
    • ทองหยอด หมายถึง ความร่ำรวยที่ใช้จ่ายเงินไม่มีหมด
    • ฝอยทอง หมายถึง ชีวิตคู่ที่ยืนยาว ซึ่งให้ความหมายที่แตกต่างกันออกไป แต่ล้วนแล้วแต่มีความหมายที่เป็นมงคลทั้งสิ้น
    • ทองเอก คือ ของขวัญในการฉลองการเลื่อนยศ เพราะเป็น ขนมไทย ในตระกูลทองอีกชนิดหนึ่ง ที่ต้องใช้ความพิถีพิถันเป็นอย่างยิ่งในทุกขั้นตอนการทำ มีลักษณะที่สง่างาม โดดเด่นกว่า ขนมตระกูลทอง ชนิดอื่น ๆ ตรงที่มี ทองคำเปลว ติดไว้ที่ด้านบนของขนม คำว่า “เอก” หมายความถึง การเป็นที่หนึ่ง การใช้ ขนมทองเอก ประกอบพิธีมงคลสำคัญต่าง ๆ หรือใช้มอบเป็นของขวัญในงานฉลองการเลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง จึงเปรียบเสมือนคำอวยพรให้เป็นที่หนึ่ง
    • ขนมทองหยิบ หมายถึง หยิบจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง
    • ขนมชั้น หมายถึง ชั้นของขนมก็เปรียบเสมือนตำแหน่งชั้นยศที่สูงขึ้น ได้รับการเลื่อนขั้น ผนวกกับความเชื่อของเลขมงคล เลข 9 ที่แสดงถึงความเจริญก้าวหน้า ทำให้คนนิยมทำขนมชั้นให้มี 9 ชั้น เพื่อความมงคลยิ่งขึ้น
    • เม็ดขนุน หมายถึง เป็นหนึ่งในขนมตระกูลทอง ภายในจะมีไส้ด้วย นิยมทำจากถั่วเขียวบดละเอียด รสชาติหวานมัน เม็ดขนุน สื่อหมายถึงมีคนคอยเกื้อหนุนจุนเจือ  มีคนช่วยเหลือสนับสนุนไม่ว่าทางด้านการงานหรือเรื่องการใช้ชีวิต
    • ขนมถ้วยฟู เป็นขนมอีกอย่างนึงที่มีชื่อมีความหมายมงคล โดยมีความหมายที่ทำให้คู่แต่งงานมีความเจริญรุ่งเรืองเฟื่องฟู และหน้าที่การงานที่เจริญก้าวหน้า
    • ขนมเสน่ห์จันทน์ หมายถึง มีเสน่ห์ มีผู้คนรักใคร่ เพราะ “จันทน์” เป็นต้นไม้ชนิดหนึ่ง มีผลสุก สีเหลืองเปล่งปลั่ง ทั้งสวยงามและมีกลิ่นหอม ชวนให้หลงใหล คนโบราณจึงนำความมีเสน่ห์ของ ผลจันทน์ มาประยุกต์ทำเป็น ขนมไทย และได้นำ “ผลจันทน์ป่น” มาเป็นส่วนผสม ทำให้มีกลิ่นหอมเหมือน ผลจันทน์ ให้ชื่อว่า “ขนมเสน่ห์จันทน์” โดยเชื่อว่าคำว่า เสน่ห์จันทน์ เป็นคำที่มีสิริมงคล จะทำให้มีเสน่ห์ คนรักคนหลงดังเสน่ห์ของ ผลจันทน์ ขนมเสน่ห์จันทน์ จึงถูกนำมาใช้ประกอบในงานพิธีมงคลสมรส

                       ภาพจาก Jakawin Photography

    ภาพจาก https://www.pinterest.com/pin/557250153866566163/?lp=true

 

อาหารมงคลที่กล่าวไปข้างต้น แสดงให้เห็นว่าคนไทยสมัยก่อนนั้นพิถีพิถันกับประเพณีมาก และแสดงให้เห็นถึงความละเมียดละไมในการดำเนินชีวิตของคนไทยมาช้านาน ในรุ่นลูกรุ่นหลายจึงต้องช่วยรักษาและถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมอันดีนี้ ให้อยู่กับคนรุ่นหลังต่อไป  แม้ว่าอาหารมงคลเป็นส่วนประกอบหลักที่ควรให้ความสำคัญแล้ว แต่สุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ชีวิตคู่ดำเนินไปด้วยดี  คือ  ความรัก ความเอาใจใส่ ความเข้าใจของทั้งคู่ อย่าลืมดูแลความรักและหมั่นเติมความหวานให้กันและกันนะคะ

 

เขียนโดย Box wedding

ภาพโดย Jakawin Photography

อาหารมงคลในงานแต่งงาน

 

งานแต่งงานตามประเพณีไทยต้องมาคู่กับความเชื่อของคนไทยในสมัยโบราณซึ่งเชื่อกันว่างานแต่งงานงานคืองานมงคล ดังนั้นทุกอย่างในงานก็ต้องเป็นของมงคลด้วย โดยเฉพาะ  “อาหาร “ ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญอย่างหนึ่งในพิธีงานแต่งงาน ควรเลือกอาหารที่มีความหมายดีๆ เพื่อความเป็นสิริมงคลด้วยเช่นกัน

วันนี้ Box wedding จะมาแนะนำให้รู้จักกับอาหารมงคลที่ควรมีในงานแต่งงาน ให้เพื่อนๆหรือคู่บ่าวสาวได้ทราบ และสามารถนำเอาความรู้นี้ไปปรับใช้ในงานแต่งงานของทุกๆคู่นะคะ จะมีอาหารมงคลอะไรบ้างนั้น เราไปลองอ่านกันเลยค่ะ…

 

  • ขนมจีบ เรียกได้ว่า ขนมจีบ เป็นตัวแทนของคู่รัก และความรัก ยิ่งคู่สามีภรรยาที่แต่งงานกันมานานหลายปี จนเกิดความเบื่อหน่ายกันบ้าง แนะนำให้หาขนมจีบมากินเป็นการแก้เคล็ด เพื่อให้ความรักหวานชื่นเหมือนในช่วงที่จีบกันใหม่ๆค่ะ

ภาพจาก Jakawin Photography

 

  • ห่อหมก คนไทยนิยมนำมาจัดวางไว้ในพิธีแต่งงาน เพราะอยากให้บ่าวสาวได้รักกันยาวนาน ไม่มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง ให้ต้องรำคาญใจ ดังสำนวนที่ว่า “เออออห่อหมก”

             ภาพจาก http://cookingdiary.fanthai.com/?p=494

 

  • ขนมจีนน้ำยา ถือเป็นอาหารสำคัญในงานแต่งงานในสมัยก่อนเลยก็ว่าได้ เส้นขนมจีนต้องเป็นเส้นยาว ห้ามตัดให้ขาดเพราะเชื่อว่าเส้นขนมที่ยาวจะทำให้ครองรักกันยืนยาว และผักเครื่องเคียงก็ต้องเป็นผักชื่อมงคล เช่น ถั่วงอก เพราะ ให้ความหมายในเรื่องของความเจริญงอกงาม ความก้าวหน้า ในหน้าที่การงานและด้านการค้าขาย ให้ร่ำรวยเงินทองยิ่งๆขึ้นไป

ภาพจาก http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=jazzy-bong&month=04-10

 

  • ข้าวเหนียว เพื่อสื่อถึงความรักที่เหนียวแน่นยืนนานจะครองรักกันยาวนาน

ภาพจาก https://img.kapook.com/u/2016/surauch/home/c6.jpg

 

  • ลาบ  คำว่า ลาบ  อ่านเหมือนกับคำว่า ลาภ  ซึ่งคนเรานิยมนำไปเลี้ยงในงานพิธีต่างๆ หมายถึงความโชคดี ลาภลอย การได้มาโดยคาดไม่ถึง ไม่ได้คาดหมายมาก่อน

                       ภาพจาก Jakawin Photography

 

  • แกงฟักทอง  เป็นอาหารที่มีกะทิผสมอยู่ด้วย มีรสชาติกลมกล่อม ซึ่งจะนำฟักทองมาทำเป็นแกงใส่หมู หรือ ไก่ตามชอบ ความหมายของฟักทองหมายถึง การเกิดสิ่งที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น คำว่าฟัก หมายถึงการเริ่มต้นในการให้กำเนิด การเกิดสิ่งใหม่ๆ มีการฟูมฟักดูแลอย่างดี ทอง เป็นสิ่งของที่มีมูลค่ามาก เมื่อคำว่า ฟักทอง มารวมกันหมายถึงการกำเนิดสิ่งใหม่ๆ ที่มีคุณค่ามาก เกิดขึ้น แกงฟักทองนิยมทำในงานแต่งงาน

       ภาพจาก http://www.lumdee.com/th/2016/07/27/%E0%B9%81%E0%

 

  • ผัดหมี่ เป็นอาหารที่เป็นมงคลอีกอย่างหนึ่งซึ่งเราจะเห็นในทุกๆ งาน เพราะ ผัดหมี่สีแดง หมายถึงความสุขสมหวัง เกี่ยวกับความรักก็คือความหลงใหล รักใคร่ยาวนาน และยังหมายถึงการมีอายุยืนยาวเหมือนเส้นหมี่อีกด้วย และในผัดหมี่จะมีถั่วงอกอยู่ด้วยซึ่งก็จะหมายถึงความรักและการงานที่งอกงาม มีความเจริญก้าวหน้า และยืนยาวตลอดไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

               ภาพจาก https://pantip.com/topic/32407210

 

  • ต้มจืด  เป็นอาหารที่ขาดแทบไม่ได้ในงานพิธีต่างๆ เพราะ ต้มจืดเปรียบเหมือนตัวแทนแห่งความคล่องแคล่วและความสุข เป็นการซดน้ำร้อนๆ แบบคล่องคอ ทำให้ชีวิตราบลื่นไม่มีอุปสรรคใดๆ ถ้าใส่วุ้นเส้นไปด้วยก็ทำให้ชีวิตยืนยาวอีกด้วย หรือถ้าใส่สาหร่ายก็ยิ่งดี เพราะสาหร่ายหมายถึงความร่ำรวยความมั่งคั่ง ถ้ามีทั้งวุ้นเส้นและสาหร่ายก็จะหมายถึงชีวิตที่ราบรื่น ยืนยาว ร่ำรวยและมั่งคั่งไม่มีที่สิ้นสุด

          ภาพจาก https://cookpad.com/th/search/%E0%B8%95%E0%B9%89

 

ด้านขนมหวาน ก็ต้องเป็นขนมหวานมงคลด้วยเช่นกัน

  • ลอดช่องน้ำกะทิ เชื่อว่าทำให้มีความรักยืนยาว ประสบความสำเร็จในชีวิตคู่ จะทำการอันใดก็ลื่นไหลไปได้ด้วยดี

                ภาพจาก https://pantip.com/topic/33771396

 

  • ข้าวตอกน้ำกะทิ ที่มีความหมายว่าความรักที่เบ่งบานเหมือนกับข้าวตอก และหวานชื่นเหมือนน้ำกะทิ

http://zazukichadjuing.blogspot.com/2015/07/blog-post_14.html

 

  • เม็ดแมงลักน้ำกระทิ เม็ดแมงลักมีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ จับกันเป็นแพ เชื่อว่าให้บ่าวสาวมีลูกหลานเต็มบ้านครอบครัวอบอุ่น

ภาพจาก https://cooking.kapook.com/view126298.html
  •  ขนมหวานมงคบ 9 ชนิด  คนไทยรู้จักกันในงานมงคลต่างๆเกือบทุกงาน ต้องห้ามพลาดที่จะจัดไว้สำหรับเลี้ยงพระ เลี้ยงแขก เช่น
    • ทองหยิบ หมายถึง หยิบจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง
    • ทองหยอด หมายถึง ความร่ำรวยที่ใช้จ่ายเงินไม่มีหมด
    • ฝอยทอง หมายถึง ชีวิตคู่ที่ยืนยาว ซึ่งให้ความหมายที่แตกต่างกันออกไป แต่ล้วนแล้วแต่มีความหมายที่เป็นมงคลทั้งสิ้น
    • ทองเอก คือ ของขวัญในการฉลองการเลื่อนยศ เพราะเป็น ขนมไทย ในตระกูลทองอีกชนิดหนึ่ง ที่ต้องใช้ความพิถีพิถันเป็นอย่างยิ่งในทุกขั้นตอนการทำ มีลักษณะที่สง่างาม โดดเด่นกว่า ขนมตระกูลทอง ชนิดอื่น ๆ ตรงที่มี ทองคำเปลว ติดไว้ที่ด้านบนของขนม คำว่า “เอก” หมายความถึง การเป็นที่หนึ่ง การใช้ ขนมทองเอก ประกอบพิธีมงคลสำคัญต่าง ๆ หรือใช้มอบเป็นของขวัญในงานฉลองการเลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง จึงเปรียบเสมือนคำอวยพรให้เป็นที่หนึ่ง
    • ขนมทองหยิบ หมายถึง หยิบจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง
    • ขนมชั้น หมายถึง ชั้นของขนมก็เปรียบเสมือนตำแหน่งชั้นยศที่สูงขึ้น ได้รับการเลื่อนขั้น ผนวกกับความเชื่อของเลขมงคล เลข 9 ที่แสดงถึงความเจริญก้าวหน้า ทำให้คนนิยมทำขนมชั้นให้มี 9 ชั้น เพื่อความมงคลยิ่งขึ้น
    • เม็ดขนุน หมายถึง เป็นหนึ่งในขนมตระกูลทอง ภายในจะมีไส้ด้วย นิยมทำจากถั่วเขียวบดละเอียด รสชาติหวานมัน เม็ดขนุน สื่อหมายถึงมีคนคอยเกื้อหนุนจุนเจือ  มีคนช่วยเหลือสนับสนุนไม่ว่าทางด้านการงานหรือเรื่องการใช้ชีวิต
    • ขนมถ้วยฟู เป็นขนมอีกอย่างนึงที่มีชื่อมีความหมายมงคล โดยมีความหมายที่ทำให้คู่แต่งงานมีความเจริญรุ่งเรืองเฟื่องฟู และหน้าที่การงานที่เจริญก้าวหน้า
    • ขนมเสน่ห์จันทน์ หมายถึง มีเสน่ห์ มีผู้คนรักใคร่ เพราะ “จันทน์” เป็นต้นไม้ชนิดหนึ่ง มีผลสุก สีเหลืองเปล่งปลั่ง ทั้งสวยงามและมีกลิ่นหอม ชวนให้หลงใหล คนโบราณจึงนำความมีเสน่ห์ของ ผลจันทน์ มาประยุกต์ทำเป็น ขนมไทย และได้นำ “ผลจันทน์ป่น” มาเป็นส่วนผสม ทำให้มีกลิ่นหอมเหมือน ผลจันทน์ ให้ชื่อว่า “ขนมเสน่ห์จันทน์” โดยเชื่อว่าคำว่า เสน่ห์จันทน์ เป็นคำที่มีสิริมงคล จะทำให้มีเสน่ห์ คนรักคนหลงดังเสน่ห์ของ ผลจันทน์ ขนมเสน่ห์จันทน์ จึงถูกนำมาใช้ประกอบในงานพิธีมงคลสมรส

                       ภาพจาก Jakawin Photography

    ภาพจาก https://www.pinterest.com/pin/557250153866566163/?lp=true

 

อาหารมงคลที่กล่าวไปข้างต้น แสดงให้เห็นว่าคนไทยสมัยก่อนนั้นพิถีพิถันกับประเพณีมาก และแสดงให้เห็นถึงความละเมียดละไมในการดำเนินชีวิตของคนไทยมาช้านาน ในรุ่นลูกรุ่นหลายจึงต้องช่วยรักษาและถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมอันดีนี้ ให้อยู่กับคนรุ่นหลังต่อไป  แม้ว่าอาหารมงคลเป็นส่วนประกอบหลักที่ควรให้ความสำคัญแล้ว แต่สุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ชีวิตคู่ดำเนินไปด้วยดี  คือ  ความรัก ความเอาใจใส่ ความเข้าใจของทั้งคู่ อย่าลืมดูแลความรักและหมั่นเติมความหวานให้กันและกันนะคะ

 

เขียนโดย Box wedding

ภาพโดย Jakawin Photography

10 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ขอพรความรัก

คนโสด ก็อยากเจอจะเนื้อคู่ คนมีคู่ก็อยากจะครองรักกับคนรักไปนานๆ เพราะไม่ว่าใครก็อยากจะเจอความรักที่ดี มีความสุข สมหวังกันทั้งนั้นใช่ไหมคะ วันนี้ Box Wedding จึงขอนำเสนอ “10 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ขอพรความรัก” ที่ใครต่อใครต่างการันตีว่า ถ้าได้ไปกราบสักการะแล้วจะสมหวังในเรื่องความรักดั่งใจหมายอย่างแน่นอน หนุ่มสาวคนไหนที่กำลังอยากเจอเนื้อคู่ ต้องลองไปกราบสักการะกันดูนะคะ ส่วนใครที่กำลังอินเลิฟกันอยู่ก็เดินทางไปขอพรให้รักนิรันดร์ได้เช่นกันค่ะ จะมีสถานที่ไหนบ้างนั้น อย่ามัวรอช้า ไปอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ…

 

1. สถานที่ไหว้พระขอความรัก ศาลพระตรีมูรติ (ลาน Central World)

ภาพจาก http://www.thaiday.com/Daily/ViewNews

สถานที่ไหว้ขอพรด้านความรัก อันดับหนึ่งเห็นจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้ นอกจาก “ศาลพระตรีมูรติ” เทพเจ้าแห่งความรัก  แห่งแยกราชประสงค์บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้า  Central World  ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของการขอความรัก

สถานที่ตั้ง ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ สี่แยกราชประสงค์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

เวลาที่ควรมาสักการะ ปกติสามารถขอพรได้ทุกวัน หากแต่ฤกษ์ที่ดีที่สุดในการขอพรคือ วันพฤหัสบัดี เวลา 9.30 น. และ  21.30 น. เพราะเชื่อกันว่าเวลานี้เป็นเวลาที่เหล่าทวยเทพจะลงมายังโลกมนุษย์เพื่อรับคำและประทานพรให้แก่ผู้ที่มาขอพร และจะศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก

สิ่งที่ควรนำมาถวาย  เครื่องสักการะควรเน้นสีแดง เช่น ดอกกุหลาบสีแดง 9 ดอก, ธูปแดง 9 ดอก, เทียนคู่สีแดง และมีเทคนิคคือจะต้องวางติดกันเพื่อถือเคล็ดให้ได้เจอคู่ครองสมใจ  หากใครมีคนรักอยู่แล้วเมื่อมาขอพรพระตรีมูรติก็จะทำให้รักกันมากขึ้น  หากสิ่งอธิษฐานได้สมหวังดั่งใจจะต้องหานำของมาถวาย เช่น มะพร้าว, น้ำอ้อย, นมสด หรือของหวานอื่นๆ แล้วแต่ศรัธา (ที่สำคัญห้ามถวายอาหารคาวนะคะห้ามถวายของคาวทุกชนิด)

การเดินทาง สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีชิดลม ใช้ทางออกที่ 9 ซึ่งจะมีทางเชื่อมโดยตรงสู่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ จากนั้นให้เดินไปบริเวณหน้าห้างอิเซตัน

2. สถานที่ไหว้พระขอความรัก พระแม่อุมาเทวี  (วัดแขก สีลม)
                                        ภาพจาก http://www.hindumeeting.com/forum
 หากอยากมีความรักที่สมหวังและจริงจัง มั่นคงขึ้นมาอีกระดับ เราแนะนำให้มาที่ “วัดแขก” หรือ “วัดพระศรีมหาอุมาเทวี” ย่านสีลม เพื่อสัการะบูชาพระแม่อุมาเทวี  เนื่องด้วยพระแม่อุมาเทวีนั้น ขึ้นชื่อในเรื่องศรัทธาและรักมั่นคงต่อองค์พระศิวะ

วัดแขกเป็นวัดเก่าแก่อายุมากกว่า 100 ปี มีสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น เป็นศิลปะแบบอินเดียตอนใต้ ผสมผสานกันระหว่างสมัยโชละและปาลวะ อีกทั้งยังเป็นที่ประดิษฐานของพระศรีมหาอุมาเทวี หรือพระแม่อุมา ซึ่งเป็นพระมเหสีของพระอิศวรหรือพระศิวะ โดยเชื่อกันว่าพระแม่อุมาเป็นเทวีที่มีความเมตตากรุณาสูงและรักพระศิวะยิ่งนัก การได้มากราบไหว้ขอพรจากท่าน จึงเป็นการเสริมดวงในเรื่องความรัก ใครที่มีคู่ครองอยู่แล้วก็จะประสบความสำเร็จในการด้านการใช้ชีวิตกับคนรัก ใครที่โสดก็จะได้พบเนื้อคู่เร็วขึ้น

สถานที่ตั้ง วัดพระศรีมหาอุมาเทวี  2 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร

เวลาที่ควรมาสักการะ วัดแขกจะเปิดให้สักการะทุกวัน โดยเวลาเปิด วันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 6.00-20.00 น. วันศุกร์ เวลา 6.00-21.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 6.00-20.30 น. ในช่วงวันขึ้น 1-9 ค่ำ ของทุกๆ ปี ประมาณเดือนตุลาคม รวม 9 วัน 9 คืนนั้น เป็นเป็นช่วงเวลาของเทศกาลดูเซร่า หรือนวราตรี ของชาวฮินดู ซึ่งเป็นงานแห่พระแม่อุมา และเชื่อกันว่าในช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่พระแม่และขบวนเทพจะเสด็จมายังโลกเพื่อประทานพรให้กับมนุษย์

สิ่งที่ควรนำมาถวาย ห้าม! นำของคาว เข้าบริเวณโบสถ์ ส่วนของไหว้ทางวัดจะจัดลงถาดไว้ให้ ราคาถาดละ 60 บาท ในถาดจะมีธูป เทียน พวงมาลัยดาวเรือง นม กล้วย มะพร้าว อ้อย จุดขายจะอยู่บริเวณหน้าทางเข้าโบสถ์เลย เงินที่ได้เค้าเอาไว้บำรุงวัด และสร้างสิ่งต่างๆ แต่หากอยากถวายเพิ่มสามารถเตรียมไปเองหรือหาซื้อเพิ่มได้ที่บริเวณรอบนอกมีขายแต่ราคาสูงกว่าเล็กน้อย

การเดินทาง สามารถนั่ง bts ลงสถานีศาลาแดง ทางออกที่ 2 จากนั้นนั่งรถสาธารณะไปตามถนนสีลม โดยวัดแขกจะอยู่ที่มุมถนนสีลมและถนนปั้น นอกจากนี้ยังมีรถประจำทางสาย 17,77,115,163,164,504 ผ่านด้วย

ข้อห้าม   1.ห้ามนำของคาว เข้าบริเวณโบสถ์ ในที่นี้หมายถึงเนื้อสัตว์ทุกชนิด เพราะฮินดูถือมากค่ะ ถวายได้เฉพาะ นม ผลไม้ ขนมอินเดียที่ทำจากนมน้ำตาลต่างๆ

2.ผู้หญิงมีประจำเดือนห้ามเข้าบริเวณโบสถ์ค่ะ ทางที่ดีควรเลือกไปไหว้ ในช่วงไม่มีรอบเดือน เพราะทางศาสนามีความเชื่อและถือว่า กายของหญิงที่มีรอบเดือนเป็นกายที่ไม่สะอาด ในช่วงนั้นถือว่าลบหลู่สถานที่รวมถึงเทพ/เทวีอันศักดิ์สิทธิ์ด้วยค่ะ แต่ถ้าใครมีใจศรัทธาไปไหว้โดยยไม่ทราบมาก่อน หรือไม่เจตนาจริงๆ ก็ไม่ต้องคิดมากคะ ไม่เจตนา/ไม่ทราบไม่ผิดคะ

3. สถานที่ไหว้พระขอความรัก พระแม่ลักษมี (เกษรพลาซ่า แยกราชประสงค์)

ภาพจาก http://www.khanpak.com/content/24832/

พระแม่ลักษมี” เป็นเทพนารีผู้มีน้ำพระทัยเมตตาอยู่เป็นนิจ เป็นตัวอย่างแห่งสตรีที่งามพร้อมทั้งรูปและกิริยามารยาท มีวาจาไพเราะ ทั้งถือกันว่าเป็นผู้นำมาซึ่งความเจริญทุกประการ และพระแม่เป็นชายาที่ซื่อสัตย์ของพระนารายณ์และทรงเป็นที่รักยิ่งของพระสวามี ทำให้ผู้คนต่างศรัทธาและหลั่งไหลกันมาสักการะขอพรในเรื่องความรัก มีความเชื่อว่าไม่เพียงขอให้ได้สมหวังในเรื่องของความรักกับคนที่เรารักแล้วนั้น ยังได้ในเรื่องของรักแท้และซื่อสัตย์กับเราเพียงคนเดียวอีกทางหนึ่ง

สถานที่ตั้ง อยู่ที่ดาดฟ้าชั้น 4 เกษรพลาซ่า ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

เวลาที่ควรมาสักการะ  เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าสักการะได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.

สิ่งที่ควรนำมาถวาย ของไหว้ได้แก่ธูป 9 ดอกและบัวสีชมพู ส่วนของที่นิยมนำมาแก้บนคือ น้ำอ้อย หรือผลไม้รสอ่อนๆ เช่น มะพร้าว ขอแนะนำให้เตรียมเครื่องสักการะที่ต้องการไหว้มาเอง เพราะบริเวณนี้ไม่มีร้านค้าจำหน่ายของไหว้เหมือนเทวสถานแห่งอื่น

การเดินทาง วิธีเดินทางไปเกษรวิลเลจที่สะดวกที่สุด คือใช้บริการรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีชิดลม จากนั้นเดินต่อไปตามทางเชื่อม BTS Skywalk อีกราว 150 เมตร

 

4. สถานที่ไหว้พระขอความรัก พระกฤษณะ วัดเทพมณเฑียร (เสาชิงช้า)
                          ภาพจาก http://www.siamganesh.com/hindusamaj.html
พระกฤษณะ เป็นเทพอีกองค์หนึ่งที่สาวโสดหรือผู้อยากสมหวังในเรื่องของความรัก ต้องอย่าพลาดเป็นเด็ดขาด เพราะท่านขึ้นชื่อมากในเรื่องของการให้พรความรัก มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าสมหวังด้านความรักมาหลายรายแล้ว และมีความเชื่อว่าเมื่อยามท่านใช้ชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์ ท่านมีสนมมากถึง 10,000 คน แต่ถึงอย่างไรท่านก็มีจิตใจรักมั่นต่อนางราดานะคะ หญิงเลี้ยงวัว เป็นรักแรกของพระกฤษณะ ทำให้ความรักครั้งนั้นประทับใจและฝังอยู่ในใจของพระกฤษณะตลอดจนชั่วอายุขัย

สถานที่ตั้ง :  โบสถ์เทพมณเฑียร  จะอยู่ใกล้กับเสาชิงช้า ฝั่งตรงข้ามกับวัดสุทัศน์เทพวราราม

เวลาที่ควรมาสักการะ  เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-20.00 มีเวลาปิด 3 ชั่วโมง ระหว่างเที่ยง-บ่ายสาม
พิธีกรรมภายในวัดเทพมณเฑียรในแต่ละวัน เรียกว่า “พิธีอารตี” คือการถวายไฟแก่ทวยเทพ มีขึ้นทุกวันตั้งแต่ 06.00-08.00 น. (ในวันอาทิตย์ มีจนถึง 10.00 น. หรือ 11.30 น.) และตอนเย็นของทุกวันตั้งแต่เวลา 18.30-19.30 น. ผู้ศรัทธาสามารถเข้าร่วมพิธีกรรมได้โดยไม่ต้องขออนุญาต

สิ่งที่ควรนำมาถวาย แนะนำให้ถวายเงินตามกำลังศรัทธาเพื่อช่วยบำรุงโบสถ์
การถวายดอกไม้ พวงมาลัย ขนมต่างๆ ให้จัดเตรียมไปเอง เนื่องจากไม่มีจำหน่ายภายในวัด

การเดินทาง วัดเทพมณเฑียรตั้งอยู่ในโรงเรียนภารตวิทยาลัย (ใกล้กับโบสถ์พราหมณ์ เสาชิงช้า)เมื่อเดินทางถึงโรงเรียนภารตวิทยาลัย ให้แจ้งความประสงค์แก่ รปภ. หน้าโรงเรียนว่าต้องการมาไหว้พระจากนั้นขึ้นลิฟท์หรือบันไดด้านใน ไปยังชั้น 3 จะพบโบสถ์อยู่ภายใน เข้าไปไหว้เทพได้ทุกพระองค์มีชาวไทยไปสักการะเทพและนั่งสมาธิทุกวัน พราหมณ์และเจ้าหน้าที่ภายในยินดีเบิกเนตรเจิมองค์พระให้

 

5. ศาลย่านาค วัดมหาบุศย์

     ภาพจาก http://thailandtopvote.com/wp-content/uploads/2016/05/prakanhong4.jpeg

ตำนานความรักอมตะที่สืบต่อมายาวนาน ในเรื่องความรักที่มั่นคงของหญิงสาวนามว่า “นาค” และชายหนุ่มนามว่า “มาก” และสืบเนื่องจากตำนานเก่าแก่นี้ ทำให้มีศาลของย่านาคอยู่ที่ วัดมหาบุศย์ ย่านพระโขนง มีคำร่ำลือว่า ใครที่มาขอพรเรื่องความรักมักจะสมหวังหรือแม้กระทั่งเรื่องไปจับใบดำใบแดงเกณฑ์ทหารก็สัมฤทธิ์ผลมานักต่อนักแล้ว

สถานที่ตั้ง วัดมหาบุศย์ ซอยสุขุมวิท 77 (ถนนอ่อนนุช) เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร
เวลาที่ควรมาสักการะ  ศาลแม่นาคพระโขนง เปิดให้สักการะบูชาทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7:30 – 17:30

การสักการะบูชา ให้จุดธูป 2 ดอก พร้อมดอกไม้หรือพวงมาลัย โดยอาจจะซื้อผ้าเจ็ดสีเจ็ดศอกมาพันรอบต้นไม้ บางคนถวายของไหว้ เช่น ชุดไทย สำหรับแม่นาค หรือชุดเด็กและของเล่นเด็กสำหรับลูกแม่นาค บางคนก็เอารูปวาดที่จินตนาการว่าเป็นแม่นาคมาถวาย รูปแบบของการบูชาก็แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละคนค่ะ

การเดินทาง นั่งรถไฟ้ฟ้า BTS มาลงที่สถานีอ่อนนุช  จากนั้นเดินลงบันไดทางประตูออกที่ 1 และเรียกรถสาธารณะบอกไปวัดมหาบุศย์ บริเวณนั้นจะมีรถสองแถว มอเตอร์ไซค์รับจ้างให้บริการค่ะ

 

6. ศาลขวัญ-เรียม

    ภาพจาก http://thailandtopvote.com/wp-content/uploads/2016/05/prakanhong4.jpeg

 

คลองแสนแสบแห่งทุ่งบางกะปิ ต้นกำเนิดตำนานรักอันน่าเศร้า ที่เล่าขานว่าเรียมนั้นใช้มีดแทงตัวตายตามอ้ายขวัญ หนุ่มคนรัก ณ ท้องน้ำ อันเป็นที่พลอดรักของคนทั้งคู่ และท้องน้ำแห่งคลองแสนแสบนี้เอง ยังเป็นสายน้ำที่ไหลสู่ศาลเจ้าพ่อไทร สถานที่ที่ขวัญกับเรียมเคยสาบานว่า จะรักกันตราบจนความตายจะมาพรากจาก…

จากเรื่องเล่าขานกลายเป็นตำนานมีชีวิต เมื่อชาวบ้านได้นำรูปปั้นขวัญ-เรียมขี่ควาย มาไว้ข้างๆ กับศาลต้นไทร สถานที่ที่คนทั้งคู่เคยสาบานว่า จะรักกันจวบจนควาวามตายจะมาพรากจาก
ศาลแห่งนี้ตั้งเป็นอนุสรณ์ให้รู้ว่า เมื่ออดีต ที่นี่เคยเป็นจุดเริ่มต้นความรักที่ไม่สมหวังของหนุ่มสาวแห่งทุ่งบางกะปิ เมื่อ 78 ปีก่อน จากตำนานเรื่องราวความรักของขวัญ-เรียมนี้เอง ทำให้มีคนจำนวนมาก พากันมาไหว้สักการะขอพรความรัก

สถานที่ตั้ง  ตลาดนํ้าขวัญเรียม ริมคลองแสนแสบ ระหว่างซอยเสรีไทย 60 และ ซอยรามคำแหง 187 บริเวณวัดบำเพ็ญเหนือ และ วัดบางเพ็งใต้

เวลาที่ควรมาสักการะ  เปิดทำการวัน เสาร์- อาทิตย์ และ วันหยุด นักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 6:00 น. – 18:00 น. นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมตักบาตพระทางเรือ 7.30-8.00 น. โทร 081-357-1545  จันทร์-ศุกร์   เวลา ราชการ

การสักกะระบูชา ให้จุดธูป 3 ดอก นิยมถวายนํ้าแดง ดอกไม้ ดอกบัว พวงมาลัย หุ่นรูปปั้นควาย

การเดินทาง  

เส้นทางที่ 1 ถนนสุขาภิบาล 2 (เสรีไทย) รถเมล์ 27 ปอ.502 รถยนต์ส่วนตัว มีที่จอด วิ่งตรงมาจาก The Mall บางกะปิ ผ่านสวนสยามจะเจอปากทางเข้าวัดเลี้ยวเข้ามาได้เลย วัดบำเพ็ญเหนือทางด้านขวา ต้องไปเลี้ยวกลับ

เส้นทางที่ 2 ถนนสุขาภิบาล 3 (รามคำแหง) รถเมล์สาย 113 และ 58 ปอ.113 และ 514

ถ้าเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : วิ่งตรงมาจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ผ่านแยกบ้านม้า ผ่านซอยมิสทีนมาวัดบางเพ็งใต้จะอยู่ทางซ้ายมือ รถยนต์ส่วนตัวที่มาเที่ยวทางตลาดน้ำขวัญเรียม ทางตลาดมีที่จอดรถให้ฟรี

7. สถานที่ไหว้พระขอความรัก พระนอน- วัดโพธิ์
พระนอน - วัดโพธิ์ รวมสถานที่ไหว้พระขอพรความรัก
pha non wat pho - ไหว้พระขอพรความรัก
                                   ภาพจาก http://www.edtguide.com/travel/76868/

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือ ที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ “วัดโพธิ์”  ที่วัดแห่งนี้นอกจากจะขึ้นชื่อในเรื่องการขอโชคลาภและความสำเร็จแล้ว ยังมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างมาอีกว่าการไปไหว้พระนอนวัดโพธิ์ช่วยทำให้หลายคนสมหวังในเรื่องความรักด้วย โดยเฉพาะปีไหนที่ผู้หญิงอายุขึ้นเลข 3 เพราะดาวเลข 3 คือ ดาวความรักของผู้หญิง และตามศาสตร์ เลข 3 คือ พระนอน พระนอนเป็นปางของพระนารายณ์บรรทมสินธุ์  จึงแนะนำให้ผู้หญิงไปขอพรกับพระนอน ซึ่งจะมีสิทธิ์เจอคู่และแต่งงานและต้องเป็นพระนอนที่วัดโพธิ์ด้วย เพราะศักดิ์สิทธิ์มาก

สถานที่ตั้ง : วัดพระเชตุพน วิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร 2  ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง. เขตพระนคร กรุงเทพฯ

เวลาที่ควรมาสักการะ  เปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา : 08.00 – 18.00 น

การสักกะระบูชา ควรไหว้วันอังคาร เพราะเลข 3 คือ วันอังคาร ขนมจีน 3 จับ กับน้ำยาปลา ธูป 8 ดอก เทียนสีผึ้ง 8 เล่ม ดอกบัว 8 ดอก และเงินอีก 8 บาท เมื่อไหว้แล้วให้รอธูปหมด เสร็จแล้วลาขนมจีน เอามากิน เส้นขนมจีนยาวๆ เสมือนสายใยให้ไปเจอะคู่ของตัวเอง

การเดินทาง  วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ตั้งอยู่ริมถนนสนามไชยและถนนมหาราช ติดกับพระบรมมหาราชวัง

 

8. พระธาตุศรีสองรัก จังหวัดเลย

พระธาตุศรีสองรักภาพจาก http://www.touronthai.com/article/94

พระธาตุศรีสองรัก เป็นปูชนียสถานสำคัญที่สุดของจังหวัดเลย ซึ่งก่อด้วยอิฐ สร้างขึ้นในแผ่นดินสมเด็จพระมหาจักรพรรดิผู้ครองกรุงศรีอยุธยาและพระเจ้าไชยเชษฐาผู้ครองกรุงศรีสัตนาคนหุต (เวียงจันทน์) เพื่อเป็นสักขีพยานแห่งความรัก ความสามัคคี สัจจะมิตรไมตรี และเป็นหลักเขตแดนของสองพระนคร

มูลเหตุที่สร้างพระเจดีย์นี้ ด้วยสมัยนั้นพม่ามีกษัตริย์ที่เข้มแข็งในการสงคราม คือพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ และพระเจ้าบุเรงนอง ได้ยกกองทัพมารุกรานกรุงศรีอยุธยา และกรุงศรีสัตนาคนหุต สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ กับพระเจ้าไชยเชษฐา จึงกระทำสัตย์ปฏิญาณต่อกันเพื่อร่วมรบกับพม่า และเป็นที่ระลึกในการทำพระราชไมตรี จึงได้ร่วมกันสร้างพระเจดีย์ไว้เป็นสักขีพยาน ให้ชื่อว่า “พระธาตุศรีสองรัก”ซึ่ง พระธาตุศรีสองรัก นี้มีความเชื่อมายาวนานเกี่ยวกับการขอพรเรื่องความรักและมิตรภาพ

สถานที่ตั้ง : ทางหลวงหมายเลข 2013 อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย

เวลาที่ควรมาสักการะ เวลาเปิด-ปิด 8.00–16.30 น.

การสักการะบูชาพระธาตุ ตามธรรมเนียมปฏิบัติของที่นี่ จะมีการนำเอาเครื่องบูชาพระธาตุมาถวายด้วยการเดินเวียน 3 รอบแล้ววางไว้ที่ฐานของพระธาตุศรีสองรัก เครื่องบูชานี้เรียกว่า “ต้นผึ้ง” ประดิษฐ์จากโครงไม้ไผ่เป็นทรงหอปราสาทขนาดกว้างราว 2 ฟุต สูง 2 ฟุตเศษ กรุรอบด้วยลวดลายงานแทงหยวกจากนั้นประดับด้วย “ดอกผึ้ง” ซึ่งทำจากแผ่นเทียนกลมๆ บางๆ ตากแดดแล้วจับเป็นกลีบ ตรงกลางติดดอกบานไม่รู้โรย หรือขมิ้นหั่นเล็กๆ ต่างเกสรดอกไม้สีสดใส และ เทียนเวียนหัว (เทียนแท่งที่ฟั่นยาวพอคาดได้รอบศีรษะ)

ข้อปฏิบัติเกี่ยวกับองค์พระธาตุศรีสองรัก คือ ไม่ควรนำสิ่งของหรือดอกไม้สีแดงขึ้นบูชา ไม่ควรแต่งกายด้วยชุดสีแดงขึ้นไปนมัสการ เพราะองค์พระธาตุสร้างขึ้นเพื่อสัจจะและไมตรี สีแดงเป็นสัญญลักษณ์ของเลือดและความรุนแรง ไม่ควรกางร่ม สวมหมวกและสวมรองเท้าขึ้นไปบนพระธาตุ ไม่ควรนำเด็กต่ำกว่า 3 ปีขึ้นไปนมัสการ (หมายเหตุ : ก่อนท่านจะทำหรือประกอบพิธีใดๆ ที่เกี่ยวกับองค์พระธาตุขอให้ปรึกษาเจ้าหน้าที่ที่เฝ้าองค์พระธาตุก่อน)

การเดินทาง  พระธาตุศรีสองรักตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหมัน ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 1 กิโลเมตร หรือห่างจากตัวจังหวัด 83 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงหมายเลข 203 แล้วแยกเลี้ยวขวาตรงกิโลเมตรที่ 66 เข้าทางหลวงหมายเลข 2013 อีก 15 กิโลเมตร ถึงอำเภอด่านซ้ายจากนั้นแยกขวาเข้าเส้นทาง 2113 อีก 1 กิโลเมตร

ติดต่อสอบถาม:ททท.สำนักงานเลย โทร. 0 4281 2812,0 4281 1405

 

9. เจ้าแม่เขาสามมุก จังหวัดชลบุรี

เจ้าแม่เขาสามมุก                                              ภาพจาก http://www.chonburimots.go.th/th

จากตำนานหนุ่มแสนกับสาวมุข คู่รักต่างฐานะที่ได้พบรักกันแต่กลับถูกผู้ใหญ่กีดกันจนไม่สามารถครองคู่กันได้กลายเป็นโศกนาฏกรรมแสนเศร้าและกลายเป็นศาลเจ้าแม่เขาสามมุข สถานที่กราบไหว้ขอพรเรื่องความรักของหนุ่มสาวทั้งหลาย จนมาถึงทุกวันนี้โดยเชื่อกันว่าหากคู่รักที่มีความมั่นคง และซื่อสัตย์ต่อกันนำว่าวมาเขียนชื่อตนเองและคนรัก มาถวายก็จะได้ครองรักกันยืนยาวตลอดไป

สถานที่ตั้ง ถนนเลียบเขาสามมุข ใกล้หาดบางแสน อำเภอเมืองฯ จังหวัดชลบุรี

เวลาที่ควรมาสักการะ  เขาสามมุขเป็นพื้นที่สาธารณะจึงผ่านไปชมได้ตลอดเวลาแต่กลางคืนค่อนข้างเปลี่ยว แนะนำให้ไปกราบไหว้ในเวลากลางวันถึง 18.00 น.

การสักการะบูชา  ควรถวายมะพร้าวอ่อน ขนมครกผลไม้ และพวงมาลัย ที่ขาดไม่ได้คือ “ว่าว” ซึ่งตามตำนานว่าวเป็นสื่อที่ทำให้แสนและมุขได้มาพบรักกัน จึงแนะนำให้นำว่าวมาเป็นเครื่องบูชาโดยเขียนชื่อของตัวเองกับคนรักไว้บนนั้นแล้วนำไปแขวนไว้บริเวณศาลเจ้า

การเดินทาง  เขาสามมุขไม่มีรถสองแถววิ่งผ่าน  ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก  แต่สามารถเช่ารถสองแถวจากตลาดหนองมนให้ไปส่งแล้วรอรับกลับได้

– จากอ่างศิลาไปตามทางหลวงหมายเลข 3134 อีกราว 3 กิโลเมตร พบป้ายบอกทางไปเขาสามมุข เลี้ยวขวาไปตามป้ายอีก 1 กิโลเมตร จนถึงศาลเจ้าแม่สามมุข

– จากหาดบางแสน ใช้ถนนเส้นเลียบหาดมุ่งตรงสู่แหลมแท่น จะมีป้ายบอกไปตลอดทาง ห่างจากหาดบางแสนราว 2 กิโลเมตร

 

10.  กู่เจ้าน้อย ศุขเกษม – วัดสวนดอก อ.เมือง จ.เชียงใหม่

ภาพจาก https://board.postjung.com/631601.html

เจ้าน้อยศุขเกษม และ มะเมียะ สาวชาวพม่าอันเป็นตำนานเรื่องจริงที่เล่าขานสืบมาของเมืองเชียงใหม่  เมื่อร้อยกว่าปีก่อน เมื่อครั้งที่เมืองเชียงใหม่ยังเป็นประเทศราชกับกรุงสยาม เจ้าแก้วนวรัฐแห่งเมืองเชียงใหม่ได้แอบส่งเจ้าน้อยศุขเกษมไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนเซนต์แพทริกในพม่า และฟ้าก็ลิขิตให้เจ้าน้อยศุขเกษมให้ได้พบกับมะเมียะสาวชาวพม่า ที่ต่างก็รักและได้สาบานต่อกัน ณ ลานหน้าพระธาตุใจ้ตะหลั่น ว่า จะรักกันตลอดไปและจะไม่ทอดทิ้งกัน หากผู้ใดทรยศต่อความรักที่มีให้กัน ก็ขอให้ผู้นั้นอายุสั้น เมื่อฝ่ายผู้ใหญ่ทราบเรื่องและเห็นว่าไม่เหมาะสมที่จะคบหากับมะเมียะ จึงบังคับให้เจ้านายน้อยแต่งงานกับเจ้าหญิงบัวชุม ตลอดเวลาเจ้าน้อยรักแต่มะเมียะ และดื่มเหล้าทุกวัน ทำให้สิ้นอายุขัยเมื่ออายุ 33 ปี ส่วนมะเมียะออกบวชและรักษาคำมั่นสัญญาที่มีต่อเจ้านายน้อยจนสิ้นอายุขัย ด้วยตำนานรักนี้เองทำให้มีคนจำนวนมากมาสักการะขอพรในเรื่องความรัก ณ สถานที่แห่งนี้

สถานที่ตั้ง วัดสวนดอก พระอารามหลวง  เลขที่ 139 ถนนสุเทพ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่  จังหวัดเชียงใหม่

เวลาที่ควรมาสักการะ  เวลาเปิด-ปิด 08.00-17.00 น.

การสักการะบูชา  ดอกไม้ ธูปเทียน พวงมาลัย

การเดินทาง การเดินทางโดยทางรถยนต์ส่วนตัว /  จากตัวเมืองเชียงใหม่ไปทางถนนสุเทพ ด้านตะวันตก มุ่งหน้าไปทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผ่านโรงพยาบาลมหาราช แล้วโรงพยาบาลประสาท ทางเข้าวัดสวนดอกจะอยู่ทางซ้ายมือเยื้องๆโรงพยาบาล การเดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะ  / เดินทางโดยการใช้รถโดยสารเชียงใหม่ (รถแดง) บอกว่าลงที่วัดสวนดอก

 

สุดท้ายนี้ นอกจากการพึ่งศักดิ์สิทธิ์ ไหว้พระขอพรความรัก อีกสิ่งที่จะทำให้ความรักของเราสองคนมั่นคง ก็คือ ความเข้าใจและการให้อภัย ไม่ว่าจะเป็นความรักของคุณจะเป็นรูปแบบไหน Box Wedding ขออวยพรให้คนโสด เจอเนื้อคู่ไวๆ ส่วนคนที่กำลังมีความรัก ก็ขอมีความสุขสมหวัง รักกับคนรักไปนานๆนะคะ

 

เขียนโดย Box wedding

ภาพโดย Jakawin Photography & Boxwedding

11 ไอเดียของชำร่วยงานแต่งงาน

ในการจัดงานแต่งงาน สิ่งหนึ่งที่คู่บ่าวสาวทุกคู่จะต้องคิดและคำนึงถึง คือ การเลือก “ของชำร่วยงานแต่งงาน” ที่จะมอบเป็นที่ระลึกให้แก่แขกที่มาร่วมงาน หลายๆคนอาจคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่เชื่อไหมคะ ร้อยทั้งร้อย พอเอาเข้าจริงๆ กลับคิดไม่ออกว่าจะให้ของชำร่วยอะไรดี เพราะอันนั้นก็ดีอันนี่ก็ใช่ อีกอันก็ชอบ ไหนๆก็เป็นของชำร่วยงานแต่งงานของตัวเองแล้ว แน่นอนว่า คู่บ่าวสาวคงไม่อยากให้แขกที่ได้รับเชิญมาในงาน เมื่อกลับถึงบ้านก็ทิ้งขว้างของชำรวยที่เราอุตส่าห์เลือกสรรมาอย่างดีใช่ไหมคะ
วันนี้ Box wedding หยิบเอาภาพของชำร่วยงานแต่งงาน น่ารักๆในแบบต่างๆ ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง มาให้ไว้เป็นไอเดีย เผื่อคู่บ่าวที่กำลังมองหาของชำร่วยงานแต่งงาน และยังไม่รู้ว่าจะเลือกอะไรดี จะมีของชำร่วยอะไรน่ารักบ้าง เราลองไปดูกันเลย…
  •  กระเป๋าสตางค์ใบเล็ก เป็นของชำร่วยที่ผู้รับสามารถนำเอามาใช้ได้จริง ประดับตัวอักษรชื่อขึ้นต้นของคู่บ่าวสาว ขนาดเล็กน่ารักกำลังดี แนะนำให้เลือกสีกระเป๋าที่สามารถใช้ได้ทั้งผู้ชายผู้หญิง ถ้าเป็นคุณผู้ชายได้รับอาจจะเอาไว้ใส่กุญแจรถ เศษเหรียญ หรือถ้าเป็นคุณผู้หญิงก็เอาไว้ใส่เหรียญน่ารักๆ หรือใส่ลิปสติกได้คะ

ภาพจาก Jakawin Photography & Box Wedding

 

  •  ขวดโหลหรือขวดแก้วอเนกประสงค์ ภายในอาจจะบรรจุลูกอม ขนม แยม นำผึ้ง ขนาดเล็กน่ารักๆ ผูกด้วยเชือก ริบบิ้น สีต่างๆ อาจจะเป็นสีชมพู สีเขียวมิ้น ก็หวานน่ารักมุ้งมิ้ง พร้อมติกสติกเกอร์ชื่อคู่บ่าวสาว และวันที่งานแต่ง ก็เก๋ น่ารักไปอีกแบบนะคะ

ภาพจาก Jakawin Photography& Box Wedding

 

  • ขวดเซียมซี ของชำร่วยงานแต่ง ไอเดียเก๋ๆอีกรูปแบบหนึ่ง มีคำทำนายแปะอยู่ด้านหน้า นอกจากเป็นของชำร่วยแล้ว ผู้ได้รับอาจนำไปเล่นกับเพื่อน หรือใช้เป็นของประดับตกแต่งบ้านได้อีกด้วย

ภาพจาก Jakawin Photography

 

  • ลิปสติก ของชำร่วยแต่งงานที่เหมาะกับผู้หญิงเป็นอย่างมาก แต่สำหรับคุณผู้ชายอาจจะเอาไปให้แฟนสาวใช้แทน ถือเป็นของชำร่วยอีกรูปแบบหนึ่งที่สามารถนำไปใช้ได้จริง และสาวๆหลายคนต้องชอบมากๆแน่นอนค่ะ

ภาพจาก Jakawin Photography

 

  • สบู่ก้อนน่ารักๆ มีกลิ่นหอม มีสันสวยงาม แปะด้วยชื่อของคู่บ่าวสาว ก็สามารถเป็นของชำร่วยแต่งงานที่ทรงคุณค่า น่ารัก และสามารถนำมาใช้จริงได้อีกด้วย

ภาพจาก Jakawin Photography

 

  • วัตถุมงคล ของชำร่วยที่มีคุณค่าทางจิตใจและทางวัตถุ สามารถเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้ บรรจุอย่างดีอยู่ในกล่องหนังกำมะหยี่ หรืออยู่ในกรอบกระจก เขียนชื่อคู่บ่าวสาว วันเวลาที่แต่งงานระบุไว้ ก็สวยหรูดูดี มีคุณค่าไปอีกแบบนะคะ

ภาพจาก Box Wedding

 

  • สมุดโน้ต หน้าปกอาจจะเป็นรูปวาดคู่บ่าวสาว พร้อมเขียนชื่อคู่บ่าวสาว วันเวลาที่แต่งงาน ติดริบบิ้นน่ารักๆ เป็นอีกหนึ่งของชำร่วยที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อีกด้วย

ภาพจาก Jakawin Photography

 

  • เข็มกลัด ของชำร่วยที่สามารนำมาใช้ได้จริง เป็นเครื่องประดับ มิกซ์และแมทซ์ได้กับทุกชุด ใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เป็นของชำร่วยอีกอย่างหนึ่งที่มีประโยชน์ และมีคุณค่านะคะ

ภาพจาก Jakawin Photography

 

  • พัด ของชำร่วยแต่งงานที่สามารถใช้ได้จริง เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย ขนาดน่ารัก กำลังดี สกรีนชื่อคู่บ่าวสาว วันที่แต่งงาน เป็นของชำร่วยที่น่ารักแบบไทยๆดีนะคะ

ภาพจาก Jakawin Photography

 

  • พวงกุญแจ ของชำร่วยที่เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง มีหลายดีไซน์ น่ารัก หวานๆ เท่ห์ หลากหลายสีสัน หลากหลายสไตล์ เหมาะกับการใช้เป็นของชำร่วยงานแต่งงาน

ภาพจาก Jakawin Photography

 

  • ปฏิทิน ของชำร่วยที่สามารถใช้งานได้จริง ใช้ได้นาน และมีประโยชน์สำหรับทุกเพศทุกวัย เลือกสีหวานๆ น่ารักๆ อาจจะติดริบบิ้นประดับ หรือใช้กระดาษสวยๆ เขียนชื่อคู่บ่าวสาว ก็เป็นของชำร่วยอีกแบบหนึ่งที่น่ารัก และมีประโยชน์มากๆนะคะ

ภาพจาก Jakawin Photography

 

  • รูปถ่าย อีกหนึ่งของชำร่วยไอเดียเก๋ ที่คู่บ่าวสาวในปัจจุบันเลือกให้เป็นของชำร่วย เพราะรูปถ่ายช่วยเก็บภาพความทรงจำในวันงานให้คงอยู่ตลอดไป เป็นของชำร่วยที่ถูกใจทั้งผู้ให้และผู้รับ ใต้รูปอาจจะใส่ชื่อคู่บ่าวสาว วันเวลาก็เป็นของชำร่วยที่น่ารักๆมากเลยค่ะ

ภาพจาก Jakawin Photography

 

“ของชำร่วยแต่งงาน” ที่ Box wedding ได้แนะนำไปทั้งหมด ล้วนแล้วแต่เป็นของชำร่วยที่สามารถสื่อความหมาย และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งของชำร่วยแต่งงานที่ดีนั้นไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง ขอเพียงให้เหมาะสมและสามารถสื่อถึงความเป็นตัวตนของคู่บ่าวสาวก็พอ และ Box wedding หวังว่าของชำร่วยที่นำมาฝากกันในวันนี้ จะช่วยเป็นไอเดียในการเลือกของชำร่วยแก่คู่บ่าวสาว ที่จะนำไปต่อยอดในการตัดสินใจเลือกของชำร่วยแต่งงานของทุกคู่กันนะคะ

 

 

เขียนโดย Box wedding

ภาพโดย Jakawin Photography & Box wedding

6 ลำดับขั้นตอน พิธีแต่งงานช่วงเย็น

“ลำดับขั้นตอนพิธีแต่งงานในช่วงเย็น” หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่ามีลำดับขั้นตอนอย่างไรบ้าง ต้องทำอะไรก่อน-หลัง วันนี้  Box Wedding รวบรวมสรุปเอาแต่ละขั้นตอนในพิธีแต่งงานเย็นมาฝากกัน เพื่อให้คู่บ่าวสาวเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเริ่มพิธีการและนำไปประยุกต์ใช้ในงานแต่งงานของตัวเอง จะมีขั้นตอนไหนบ้างนั้นลองไปอ่านกันเลยค่ะ

ทั้งนี้ ลำดับขั้นตอนบนเวทีในช่วงเย็นนั้น โดยมากจะใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที ยกเว้นจะมีกิจกรรมอื่นเพิ่มขึ้น เช่น การแสดง การแจกรางวัล การอวยพร เป็นต้น โดยในการ์ดเชิญจะระบุเวลาเริ่มงานประมาณ 18.30 น. เมื่อแขกเริ่มทยอยมาประมาณ 70% ของที่เชิญ หรือเมื่อถึงเวลาประมาณ 19.30 น. พิธีการบนเวทีก็จะเริ่มต้นขึ้น แต่หากแขกยังมากันน้อยสามารถเลื่อนเวลาออกไปได้ แต่ไม่เกิน 30 นาที โดยมีลำดับขั้นตอน ดังนี้

 

1. พิธีกรกล่าวต้อนรับแขก-เปิดตัวคู่บ่าวสาวและเชิญคู่บ่าวสาวขึ้นเวที

ในช่วงเริ่มต้นพิธีจะมีการเปิดดนตรี พร้อมหรี่แสงไฟภายในงานลงประมาณ 60% และเพิ่มแสงไฟบนเวทีให้สว่างขึ้น เพื่อดึงดูดความสนใจของแขกให้มุ่งตรงไปที่บนเวที โดยพิธีกรในภายในงานจะเริ่มต้นกล่าวต้นรับแขก พร้อมเชิญชมพรีเซนเทชั่นที่บอกเล่าเรื่องราวของคู่บ่าวสาว ซึ่งควรใช้ความยาวไม่เกิน 8 นาที จากนั้นพิธีกรจะเชิญคู่บ่าวสาวขึ้นเวที ซึ่งถือเป็นไฮไลท์สำคัญที่สุดของงานเลยก็ว่าได้ สำหรับการกล่าวเปิดตัวคู่บ่าวสาว โดยระหว่างที่เดินขึ้นเวทีอาจจะมีการเปิดเพลงคลอ รวมทั้งอาจจะเพิ่มลูกเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ตามต้องการ ต่อมาพิธีกรจะสัมภาษณ์คู่บ่าวสาวด้วยข้อมูลเบื้องต้นสั้น ๆ หลังจากนั้นจะเป็นการกล่าวเชิญคุณพ่อและคุณแม่ของฝ่ายเจ้าบ่าวและฝ่ายเจ้าสาวขึ้นมาบนเวที

Cr. ภาพ Jakawin Photography

 

2. เชิญประธานขึ้นคล้องพวงมาลัยและกล่าวอวยพร

เมื่อคู่บ่าวสาวและคุณพ่อ คุณแม่ของทั้งสองฝ่ายยืนอยู่บนเวทีเป็นที่เรียบร้อย พิธีกรจะกล่าวเชิญประธานในพิธี ซึ่งอาจจะมี 2 ท่าน คือ ประธานฝ่ายเจ้าบ่าวและประธานฝ่ายเจ้าสาว เพื่อคล้องพวงมาลัยให้คู่บ่าวสาวบนเวที พร้อมกล่าวคำอวยพรและเป็นผู้นำในการดื่มอวยพรให้คู่บ่าวสาวภายในงาน  จากนั้นพิธีกรจะเรียนเชิญประธานและคุณพ่อคุณแม่ของฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาวลงจากเวที เพื่อดำเนินพิธีในขั้นตอนต่อไป

Cr. ภาพ Jakawin Photography

 

3. สัมภาษณ์คู่บ่าวสาวและกล่าวขอบคุณ

ขั้นตอนนี้พิธีกรจะสัมภาษณ์ด้วยการถามคำถามที่แสดงให้เห็นว่าคู่บ่าวสาวมีความรู้สึกดี ๆ พร้อมบอกเล่าความประทับใจ โดยในกรณีที่มีอะไรเซอร์ไพรส์มอบให้แก่กัน พิธีกรก็จะใช้ช่วงเวลาสุดท้ายในการทำพิธี จากนั้นพิธีกรจะเชิญให้คู่บ่าวสาวกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน

Cr. ภาพ Jakawin Photography

 

4. จุดเทียนและตัดเค้ก และโยนดอกไม้

พิธีการขั้นตอนสุดท้ายบนเวทีจะเป็นการจุดเทียน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มชีวิตคู่ที่สดใสเจริญรุ่งเรือง จากนั้นก็จะเป็นการตัดเค้ก พิธีกรจะเชิญคู่บ่าวสาวร่วมกันจุดเทียนมงคลและตัดเค้กแต่งงาน หลังจากนั้นจะนำเค้กแต่งงานไปมอบให้แก่ท่านประธานในพิธี คุณพ่อ คุณแม่ของทั้งคู่ รวมถึงผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ส่วนแขกอื่น ๆ ทางเจ้าหน้าที่จัดเลี้ยงจะช่วยจัดการนำไปเสิร์ฟให้

 

Cr. ภาพ Jakawin Photography

 

5. พิธีโยนดอกไม้ของเจ้าสาว

ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาสนุกสนานระหว่างคู่บ่าวสาว และกลุ่มเพื่อน ๆ โดยมีความเชื่อว่าเพื่อนเจ้าสาวที่รับดอกไม้ได้จะได้แต่งงานเป็นคู่ต่อไป

Cr. ภาพ Box Wedding

 

6. อาฟเตอร์ปาร์ตี้

อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่งานมักจะจบลงที่กิจกรรมสุดท้ายอย่าง “อาฟเตอร์ปาร์ตี้” ที่คู่บ่าวสาวพร้อมด้วยกลุ่มเพื่อน ๆ จะสังสรรค์เลี้ยงฉลองกันอย่างสนุกสนาน

Cr. ภาพ Jakawin Photography

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับ “6 ลำดับขั้นตอนงานแต่งงานไทยในช่วงเย็น” ถือเป็นลำดับขั้นตอนง่าย ๆ สำหรับคู่บ่าวสาวในการจัดงานแต่งงานใช่ไหมคะ บางขึ้นตอนอาจจะมีการจัดเพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นการใช้ชีวิตคู่ ส่วนบางขั้นตอนก็ยังสามารถตัดออกเพื่อความกระชับในการจัดพิธีอีกด้วย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในการจัดงานแต่งงาน คือการวางแผน ถ้าเราวางแผนแต่เนิ่นๆ พอถึงเวลาที่พิธีเริ่มต้นจริง เราก็จะสามารถดำเนินพิธีได้อย่างราบรื่น และสมบูรณ์ได้อย่างที่เราต้องการ

 

6 ลำดับขั้นตอน งานแต่งงานเย็น

“ลำดับขั้นตอนพิธีแต่งงานในช่วงเย็น” หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่ามีลำดับขั้นตอนอย่างไรบ้าง ต้องทำอะไรก่อน-หลัง วันนี้  Box Wedding รวบรวมสรุปเอาแต่ละขั้นตอนในพิธีแต่งงานเย็นมาฝากกัน เพื่อให้คู่บ่าวสาวเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเริ่มพิธีการและนำไปประยุกต์ใช้ในงานแต่งงานของตัวเอง จะมีขั้นตอนไหนบ้างนั้นลองไปอ่านกันเลยค่ะ

ทั้งนี้ ลำดับขั้นตอนบนเวทีในช่วงเย็นนั้น โดยมากจะใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที ยกเว้นจะมีกิจกรรมอื่นเพิ่มขึ้น เช่น การแสดง การแจกรางวัล การอวยพร เป็นต้น โดยในการ์ดเชิญจะระบุเวลาเริ่มงานประมาณ 18.30 น. เมื่อแขกเริ่มทยอยมาประมาณ 70% ของที่เชิญ หรือเมื่อถึงเวลาประมาณ 19.30 น. พิธีการบนเวทีก็จะเริ่มต้นขึ้น แต่หากแขกยังมากันน้อยสามารถเลื่อนเวลาออกไปได้ แต่ไม่เกิน 30 นาที โดยมีลำดับขั้นตอน ดังนี้

 

1. พิธีกรกล่าวต้อนรับแขก-เปิดตัวคู่บ่าวสาวและเชิญคู่บ่าวสาวขึ้นเวที

ในช่วงเริ่มต้นพิธีจะมีการเปิดดนตรี พร้อมหรี่แสงไฟภายในงานลงประมาณ 60% และเพิ่มแสงไฟบนเวทีให้สว่างขึ้น เพื่อดึงดูดความสนใจของแขกให้มุ่งตรงไปที่บนเวที โดยพิธีกรในภายในงานจะเริ่มต้นกล่าวต้นรับแขก พร้อมเชิญชมพรีเซนเทชั่นที่บอกเล่าเรื่องราวของคู่บ่าวสาว ซึ่งควรใช้ความยาวไม่เกิน 8 นาที จากนั้นพิธีกรจะเชิญคู่บ่าวสาวขึ้นเวที ซึ่งถือเป็นไฮไลท์สำคัญที่สุดของงานเลยก็ว่าได้ สำหรับการกล่าวเปิดตัวคู่บ่าวสาว โดยระหว่างที่เดินขึ้นเวทีอาจจะมีการเปิดเพลงคลอ รวมทั้งอาจจะเพิ่มลูกเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ตามต้องการ ต่อมาพิธีกรจะสัมภาษณ์คู่บ่าวสาวด้วยข้อมูลเบื้องต้นสั้น ๆ หลังจากนั้นจะเป็นการกล่าวเชิญคุณพ่อและคุณแม่ของฝ่ายเจ้าบ่าวและฝ่ายเจ้าสาวขึ้นมาบนเวที

Cr. ภาพ Jakawin Photography

 

2. เชิญประธานขึ้นคล้องพวงมาลัยและกล่าวอวยพร

เมื่อคู่บ่าวสาวและคุณพ่อ คุณแม่ของทั้งสองฝ่ายยืนอยู่บนเวทีเป็นที่เรียบร้อย พิธีกรจะกล่าวเชิญประธานในพิธี ซึ่งอาจจะมี 2 ท่าน คือ ประธานฝ่ายเจ้าบ่าวและประธานฝ่ายเจ้าสาว เพื่อคล้องพวงมาลัยให้คู่บ่าวสาวบนเวที พร้อมกล่าวคำอวยพรและเป็นผู้นำในการดื่มอวยพรให้คู่บ่าวสาวภายในงาน  จากนั้นพิธีกรจะเรียนเชิญประธานและคุณพ่อคุณแม่ของฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาวลงจากเวที เพื่อดำเนินพิธีในขั้นตอนต่อไป

Cr. ภาพ Jakawin Photography

 

3. สัมภาษณ์คู่บ่าวสาวและกล่าวขอบคุณ

ขั้นตอนนี้พิธีกรจะสัมภาษณ์ด้วยการถามคำถามที่แสดงให้เห็นว่าคู่บ่าวสาวมีความรู้สึกดี ๆ พร้อมบอกเล่าความประทับใจ โดยในกรณีที่มีอะไรเซอร์ไพรส์มอบให้แก่กัน พิธีกรก็จะใช้ช่วงเวลาสุดท้ายในการทำพิธี จากนั้นพิธีกรจะเชิญให้คู่บ่าวสาวกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน

Cr. ภาพ Jakawin Photography

 

4. จุดเทียนและตัดเค้ก และโยนดอกไม้

พิธีการขั้นตอนสุดท้ายบนเวทีจะเป็นการจุดเทียน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มชีวิตคู่ที่สดใสเจริญรุ่งเรือง จากนั้นก็จะเป็นการตัดเค้ก พิธีกรจะเชิญคู่บ่าวสาวร่วมกันจุดเทียนมงคลและตัดเค้กแต่งงาน หลังจากนั้นจะนำเค้กแต่งงานไปมอบให้แก่ท่านประธานในพิธี คุณพ่อ คุณแม่ของทั้งคู่ รวมถึงผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ส่วนแขกอื่น ๆ ทางเจ้าหน้าที่จัดเลี้ยงจะช่วยจัดการนำไปเสิร์ฟให้

 

Cr. ภาพ Jakawin Photography

 

5. พิธีโยนดอกไม้ของเจ้าสาว

ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาสนุกสนานระหว่างคู่บ่าวสาว และกลุ่มเพื่อน ๆ โดยมีความเชื่อว่าเพื่อนเจ้าสาวที่รับดอกไม้ได้จะได้แต่งงานเป็นคู่ต่อไป

Cr. ภาพ Box Wedding

 

6. อาฟเตอร์ปาร์ตี้

อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่งานมักจะจบลงที่กิจกรรมสุดท้ายอย่าง “อาฟเตอร์ปาร์ตี้” ที่คู่บ่าวสาวพร้อมด้วยกลุ่มเพื่อน ๆ จะสังสรรค์เลี้ยงฉลองกันอย่างสนุกสนาน

Cr. ภาพ Jakawin Photography

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับ “6 ลำดับขั้นตอนงานแต่งงานไทยในช่วงเย็น” ถือเป็นลำดับขั้นตอนง่าย ๆ สำหรับคู่บ่าวสาวในการจัดงานแต่งงานใช่ไหมคะ บางขึ้นตอนอาจจะมีการจัดเพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นการใช้ชีวิตคู่ ส่วนบางขั้นตอนก็ยังสามารถตัดออกเพื่อความกระชับในการจัดพิธีอีกด้วย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในการจัดงานแต่งงาน คือการวางแผน ถ้าเราวางแผนแต่เนิ่นๆ พอถึงเวลาที่พิธีเริ่มต้นจริง เราก็จะสามารถดำเนินพิธีได้อย่างราบรื่น และสมบูรณ์ได้อย่างที่เราต้องการ