หากคุณกำลังมองหา ว่าที่เจ้าสาวหรือแม่ของลูกคุณในอนาคต แต่ เอ๊ะ! ใครกันล่ะ ถึงจะเหมาะสมกับตำแหน่งราชินีที่จะครองใจคุณไปได้ทั้งชีวิต

วันนี้ Box wedding ขอนำเสนอ 6 ข้อดีของหญิงสาวที่ทำให้คุณผู้ชายอยากได้คุณเป็นแม่ของลูก

1. เธอเป็นสาวขี้เล่น มองโลกในแง่ดี

คุณเคยสังเกตไหมคะ ? หนังรักฝรั่งบางเรื่อง ฉากที่พระเอกแอบมองนางเอกในขณะที่ เธอกำลังยิ้ม แล้วชายหนุ่มผู้นั้นก็ตกหลุมรักหญิงสาวคนนั้นตั้งแต่แรกพบ ( Love at first sight)  “รอยยิ้มของสาวๆ” เนี่ยแหละ สะกดใจชายหนุ่มได้ หนุ่มๆทุกคนชอบสาวขี้เล่น ตลก ยิ้มเก่ง มีชีวิตชีวา เพราะบางครั้งเขาอาจจะต้องการเพื่อนอยู่ข้างๆ ที่ทำให้เขายิ้มได้ ไม่ใช่สาวอมทุกข์ ระทม ร้องไห้ ดราม่าเรื่องเล็กๆน้อยเพิ่มความปวดหัวหรือหนักใจให้เขาอีก

Cr:Descendant of Sun (Korean Series)

2. สาวผู้นั้นต้อง “มีสมอง” (แอบแรงงงง)

ใครกันเล่าชอบบอกว่า ผู้ชายไม่ชอบผู้หญิงฉลาด น้องขอบอกเลยจ้าาาา ไม่จริ๊งงงไม่จริง คุณผู้ชายเขาชอบฟังความคิดที่แตกต่างกับเขา หรือความคิดในมุมมองใหม่ๆที่ตัวเขาเองอาจจะคาดไม่ถึงเสียด้วยซ้ำ ที่เขาบอกว่าผู้ชายชอบผู้หญิงแบ๊วๆ ใสๆ จริงๆแล้ว เขาอยากให้คุณแกล้งไม่รู้บางเรื่องมากกว่ามั้งงง ><

Cr : Descendant of Sun (Korean Series)

3. มีความมั่นใจ เห็นข้อดีในตัวเองแต่ไม่หลงตัวเองนะเธอ

บางครั้งผู้ชายชอบสาวอวบอ้วน กอดอบอุ่น ไม่ใช่เพราะเธอเนื้อนมไข่หรอกนะยะ แต่เขาชอบที่เธอกล้าที่จะเป็นตัวเองและมั่นใจในตัวเองต่อทุกคนต่างหาก เพราะบางครั้งการที่ต้องอยู่กับสาวๆที่เครียดไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ชายหนุ่มก็กลุ้มใจแทนเหมือนกันนะเธออออ เพราะพวกเขาไม่ได้คิดอะไรเยอะแยะแบบเราๆนะจ๊ะ จะบอกให้

Cr : Oh My Venus ( Korean series)

4. สนุกกับชีวิต

บางครั้งเสน่ห์อีกข้อหนึ่งที่ผู้หญิงอย่างเราๆ ไม่รู้ตัวคือ ความบ้าพลังในตัวเองที่ซ่อนอยู่ เพราะมันเป็นข้อดีที่กระแทกใจชายหลายๆคน เพราะผู้ชายสมัยนี้เขาอยากได้เพื่อนคู่คิดที่สามารถไปไหนไปด้วยกันกับเขาได้ “แมนๆ คุยกันไงเล่า”

Cr : Weightlifting Fairy Kim Bok-joo

5.  ดูแลตัวเอง พึ่งพาตัวเองได้

เวลามีแฟน คุณก็อยากได้แฟนที่เป็นแฟนไม่ใช่เด็กน้อยทารกที่ดูแลตัวเองไม่ได้จริงมั้ยคะ? บางครั้ง หน้าที่การงานอาจจะทำให้หนุ่มๆของเราเหนื่อยมามากพอแล้ว กลับบ้านไป เขาแค่ต้องการหญิงสาวที่ดูแลเขาบ้าง หรืออย่างๆน้อยก็ไม่เอาเรื่องมาทำให้เขาปวดหัวมากกว่าเดิม

Cr : Descendant of Sun (Korean Series)

6. เธอทำให้คุณรู้สึกสบายใจ และ ทำให้คุณเป็นคนที่ดีขึ้น

บนโลกอันแสนกว้างใหญ่ ที่นับวันยิ่งมีการแข่งขันสู๊ง สูงงง ขนาดนี้ คุณต้องเหนื่อยกับการรบนอกบ้านมาทั้งวันแล้ว เวลากลับมาอยู่บ้าน ก็อยากได้ที่พักพิงอิงแอบที่ทำให้เราสบายใจ หนุ่มๆของเราก็เช่นกัน เขาต้องการสาวที่มาอยู่ข้างๆ เข้าใจและเป็นแรงผลักดันให้เขามีกำลังใจในการต่อสู้ต่อไปนะจ๊ะ

Cr : Weightlifting Fairy Kim Bok-joo

Cr : Descendant of Sun (Korean Series)

เขียน โดย Box wedding    TEL : 089 669 9665

วันนี้ Box Wedding ขอเสนอสถานที่จัดงานแต่งงานในฝันที่ใหม่อีกที่หนึ่ง บ่าวสาวท่านใดที่กำลังมองหาสถานที่จัดงานสวยๆ คลาสิกๆ เราขอแนะนำ “บ้านเลขที่ ๑” ให้เป็นตัวเลือกในใจอีกหนึ่งที่่ค่ะ

อาคารเก่าแก่ดั้งเดิม “บ้านเลขที่ ๑” ซ่อนตัวจากความศิวิไลของเมืองหลวง ในตรอกกัปตันบุช (ซอยเจริญกรุง ๓๐)
ติดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยามานานนับศตวรรษ ลักษณะของอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรปยุคนีโอคลาสสิก เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนสองชั้น หลังคาทรงปั้นหยาและออกแบบเป็นหน้าจั่วตรงกลางด้านหน้าอาคาร ผนังทาสีเหลือง หน้าต่างทาสีเขียวมะกอกตัดขอบขาว ประตูหน้าต่างเป็นทรงโค้งอย่างสวยงามแบบโรมัน อาคารแสดงออกถึงความแข็งแกร่งและสง่างาม ประดับมุขผนังอาคารด้วยการทำลวดลายเซาะร่องอย่างเดียวกับการก่อหินของยุโรป พื้นชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องสั่งจากต่างประเทศพื้นชั้นบนปูด้วยไม้สัก บริเวณคอสองเป็นภาพจิตรกรรมเขียนสีแบบสเตนซิล (Stencil) เป็นลวดลายดอกไม้แบบตะวันตกอย่างงดงาม

ในอดีต บ้านเลขที่ ๑ เป็นพื้นที่ของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๕ ต่อมา พระองค์ทรงพระราชทานให้แก่  พระอัครชายาเธอพระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ และทรงโปรดให้พระคลังข้างที่จัดประโยชน์โดยจัดแบ่งที่ให้เช่าเป็นสองแปลง

แปลงแรกคือตัวอาคารบ้านเลขที่ ๑ ซึ่งเลขที่ ๑ นี้ได้มาจากการที่เขตไปรษณีย์บางรัก (เดิมเป็นเขต    สี่พระยา) เห็นว่าเป็นอาคารของพระคลังข้างที่จึงให้เกียรติเป็นอาคารหมายเลข ๑

แปลงที่ ๒ คือที่ดินผืนติดกันทางฝั่งทิศเหนือผู้เช่าคือ มร.หลุยส์ ที เลียวโนเวนส์ บุตรชายของนางแอนนา เลียวโนเวนส์ หรือแหม่มแอนนา อาจารย์สอนภาษาอังกฤษพระโอรสและพระธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ดินผืนนี้ผู้เช่าใช้เป็นสถานที่เพื่อประกอบกิจการค้าไม้ส่งไปประเทศในยุโรป

ภายในบ้านเลขที่๑ เป็นอาคาร ๒ ชั้น แต่ละชั้นรองรับแขกได้ประมาณ ๖๐ คน  และมีลานจอดรถที่รองรับได้มากถึง ๑๕๐ คัน  สำหรับชั้น ๑ ของอาคารประกอบด้วย พื้นที่ล็อบบี้กลาง และห้องโถงกลางสำหรับจัดเลี้ยงใหญ่ รวมถึงห้องปีกซ้ายและขวา ส่วนชั้น ๒ แบ่งพื้นที่เป็น ๓ ห้องเช่นเดียวกับชั้นล่าง ส่วนบริเวณลานกว้างด้านหลังตัวอาคารสามารถรองรับแขกได้ถึง ๓๐๐ ที่นั่ง ขณะที่สนามหญ้าแบ่งเป็น ๓ โซน และรองรับแขกได้ถึง ๕๐๐ คน นอกจากนี้ยังมีอาคารคลังสินค้าเดิมที่อยู่ติดกับรั้วบ้านด้านขวามือ ซึ่งในอดีตผู้เช่าคือ มร. หลุยส์ ที เลียวโนเวนส์ บุตรชายของแหม่มแอนนา เลียวโนเวนส์ หรือแหม่มแอนนา ซึ่งปัจจุบันเป็นพื้นที่สำหรับการประกอบอาหาร ขนาดพื้นที่ ๖๗๕ ตร.ม. โดยยังคงเปี่ยมด้วยเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี

สถานที่แห่งนี้พร้อมเปิดประตูต้อนรับทุกท่านในทุกโอกาสสำคัญของชีวิต อาทิ งานหมั้นและงานวิวาห์อันสมบูรณ์แบบ ช่วงพิธีเช้าที่เรียบหรู  หรืองานเลี้ยงในแบบคลาสสิก ทั้งแบบค็อกเทล และกาลาดินเนอร์ รวมถึงรองรับการจัดงานอีเวนต์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ และงานเลี้ยงสังสรรค์อย่างมีสไตล์ ท่ามกลางบรรยากาศภายในและภายนอกอันหรูหราอย่างมีระดับและอบอุ่น พร้อมเนรมิตการตกแต่งอย่างงดงามเหมาะสมกับสถานที่อันเป็นประวัติศาสตร์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ บ้านเลขที่๑ มอบความสะดวกสบายในทุกๆ ด้านเพื่อให้งานสำคัญและแขกคนพิเศษได้รับความประทับใจอย่างมิรู้ลืม    

แอบมอง รอเจ้าบ่าวอยู่บนนั้น

ยิ้มมีความสุขทั้ง เจ้าบ่าว และเพื่อนเจ้าบ่าวเลยค่ะ

ต้นไม้ สวยและแข็งแรงมากค่ะ ถ่ายรูปออกมาได้บรรยากาศความคลาสิกสุดๆ

ดอกไม้ก็สวย สีสันสดใส เหมาะกับการถ่ายภาพเป็นที่สุด มองทางไหนก็ทำให้สดชื่นจ้าาา

ทางผ่านที่เรากำลังจะเดินไปยัง บ้านเลขที่ ๑

ทางเราเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสได้เข้าไปถ่ายรูปให้กับคู่รักคู่แรกที่มีโอกาสได้จัดงานแต่งงาน ณ สถานที่แห่งนี้ “บ้านเลขที่ ๑” สถานที่ที่มีทั้งความคลาสิกและเต็มไปด้วยเรื่องราว

หากใครสนใจสถานที่ “บ้านเลขที่ ๑” แห่งนี้สามารถติดต่อได้ที่ 02-6514849 , 02-2632500

เขียน โดย Box wedding

Organized this wedding By  คุณ ก้อง ปิยะ ( Sonix Youth 1999 Co.,Ltd)  

Photo By JAKAWIN PHOTOGRAPHY & BOX WEDDING        TEL : 089 669 9665

• ธีมสีแดง

• ธีมสีชมพู rose gold

• ธีมสีชมพู

• ธีมสีโอรส

• ธีมสีพีช

• ธีมสีขาว

• ธีมสีเทา-เงิน

• ธีมสีทอง

• ธีมสีนํ้าเงิน-กรม

• ธีมสีฟ้า

• ธีมสีนํ้าตาล

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับแบบชุดเพื่อนเจ้าสาวสวยๆ ในธีมสีต่างๆ  น่าจะพอเป็นไอเดียให้กับหลายๆ คนที่กำลังจะเป็นเพื่อนเจ้าสาวกันได้นะคะ แล้วกลับมาพบกันใหม่ในครั้งหน้า  Box wedding จะเอาไอเดียใหม่ๆ มาเสนอให้เพื่อนๆ เหมือนเคยค่ะ

เขียน โดย Box wedding

Photo By Jakawin Photography & Box wedding

ประเพณีการแต่งงานแบบไทย เป็นพิธีการขั้นตอนที่มีรายละเอียดที่งดงาม ด้วยยุคสมัยทำให้พิธีการอาจถูกปรับเปลี่ยนไปบ้าง มีการรวบรัดให้การดำเนินพิธีต่างๆ กระชับมากขึ้น จึงนิยมจัดพิธีหมั้นและพิธีแต่งงานในวันเดียวกัน ในปัจจุบันมีคู่บ่าวสาวน้อยคู่นักที่จะรู้จักหรือศึกษาลำดับพิธี  Box Wedding มาสรุปพิธีการแต่งงานของไทย ให้รวบรัดเพียง 8 ขั้นตอน พร้อมเทคนิคเล็กๆ ที่จะชวนคู่บ่าวสาวสมัยใหม่มาศึกษาข้อมูลด้วยตัวเองเพื่อให้สามารถดำเนินพิธีการแต่งงานในช่วงเช้าให้เป็นไปได้อย่างราบรื่น จะมีขั้นตอนอะไรบ้างนั้น เราไปเริ่มกันเลยค่ะ    

สำหรับพิธีในช่วงเช้าของการแต่งงาน ส่วนใหญ่จะเริ่มตามฤกษ์ยามงามดีของแต่ละคู่ โดยเป็นช่วงของการจัดพิธีทางศาสนาพุทธเพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นจะเป็นพิธีแห่ขันหมาก ซึ่งมักจะเริ่มในเวลา 09.19 น. (หรือตามฤกษ์ยามงามดีของแต่ละคู่) ด้วยความเชื่อที่ว่าเลข 9 เป็นเลขมงคล จะทำให้ชีวิตเจริญก้าวหน้า  โดยมีขั้นตอนของพิธีการแต่งงานในช่วงเช้า ดังนี้ …

Cr. ภาพ Jakawin Photography

1.พิธีสงฆ์

พิธีนี้จัดขึ้นเพื่อสร้างความเป็นสิริมงคล นิยมนิมนต์พระ 9 รูปนะคะ เมื่อพระสงฆ์มาถึงแล้ว คู่บ่าวสาวจะจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พิธีกรนำไหว้อาราธนาศีล5 และรับศีล5 สวดมนต์ และตักบาตร (หากเป็นช่วงสายหน่อย จะถวายสังฆทานแล้วตามด้วยถวายภัตตาหารเพล) โดยจะใช้ทัพพีและขันใส่ข้าวใบเดียวกัน พระสงฆ์อนุโมทนา จากนั้นคู่บ่าวสาวกรวดน้ำ หลังจากนั้นพระสงฆ์จะประพรมน้ำมนต์ให้เพิ่มความเป็นสิริมงคลจึงเป็นอันเสร็จพิธีสงฆ์

Cr. ภาพ Jakawin Photography

2. ขบวนแห่ขันหมาก

ในปัจจุบันนิยมจัดพิธีหมั้นและพิธีแต่งในวันเดียว ดังนั้น จึงมีการรวบรัดเอา ขันหมากหมั้น และ ขันหมากแต่ง เข้าไว้ด้วยกัน โดยจะที่มีทั้ง ขันหมากเอก และ ขันหมากโท และเมื่อตั้งขบวนขันหมากเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนใหญ่จะมีขบวนกลองยาวนำหน้าเพื่อสร้างความครึกครื้น ตามด้วยขบวนขันหมากเอก-ขันหมากโท โดยขั้นตอนนี้ต้องให้เจ้าสาวเตรียมตัวรอขันหมากบนบ้าน ส่วนเจ้าบ่าวก็จะไปบริเวณที่จัดขบวนขันหมากเตรียมตัวรอฤกษ์เคลื่อนขบวนมาบ้านเจ้าสาว เมื่อเริ่มเคลื่อนขบวน จะมีการโห่ร้องรับกัน 3 ครั้ง และโห่ร้องรับอีก 3 ครั้ง เมื่อมาถึงแล้ว จากนั้นเมื่อมาถึงบ้านเจ้าสาว ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงไปต้อนรับพร้อมกับให้เด็กหญิงถือพานหมากที่จัดเป็นจำนวนคู่ไว้สำหรับไว้ต้อนรับ จากนั้นขบวนขันหมากก็จะเตรียมตัวเข้าไปในบ้าน ซึ่งจะต้องผ่านด่าน ประตูทั้ง 3 คือ ประตูนาก ประตูเงิน และประตูทอง โดยเจ้าบ่าวจะเตรียมซองไว้ เพื่อเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนขอผ่านประตู หลังจากนี้ถือเป็นพิธีการช่วงต่อไป

Cr. ภาพ Box Wedding

3.กั้นประตู

เมื่อขบวนขันหมากของฝ่ายเจ้าบ่าวเดินทางมาถึงบ้านของฝ่ายเจ้าสาว ญาติผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาว จะเป็นผู้แทนเจรจากับเถ้าแก่ฝ่ายเจ้าบ่าว (ต้องเป็นผู้สมรสแล้ว ไม่หย่า ไม่เป็นหม้าย)จากนั้นรับพานขันหมาก พานสินสอด แหวนหมั้น วางไว้ ณ จุดประกอบพิธี บรรดาญาติของฝ่ายเจ้าสาวจะมาช่วยกันกั้นประตูเงินประตูทอง เพื่อเรียกค่าเปิดทางจากฝ่ายเจ้าบ่าว ส่วนผู้ที่กั้นประตูจะถือสายสร้อยทอง สายสร้อยเงิน หรือผ้าแพรคนละด้าน เพื่อกั้นไม่ให้ขบวนผ่านไปได้ ซึ่งถ้าอิงประเพณีหลักดั้งเดิมก็จะมีประตูหลัก ๆ 3 ประตู คือ ประตูนาก ประตูเงิน ประตูทอง (จะเรียกประตูชัย ประตูเงิน และประตูทองก็ได้เช่นกัน) โดยฝ่ายชายจะต้องเจรจาขอผ่านทาง และต้องให้ซองใส่เงิน ให้แก่ผู้กั้นประตู หลังจากผ่านประตูทุกด่านเรียบร้อยแล้ว จะมีเด็กหญิงญาติของฝ่ายหญิงเตรียมล้างเท้าให้กับเจ้าบ่าว จากนั้นฝ่ายหญิงจะจัดเด็กผู้หญิงถือพานหมากพลูไว้รอเชิญขบวนขันหมากขึ้นเรือน ซึ่งเจ้าบ่าวต้องเตรียมซองเงินไว้เป็นรางวัลด้วยเช่นกัน

Cr. ภาพ Box Wedding

4.มอบสินสอด

เมื่อฝ่ายเจ้าสาวรับขบวนขันหมากเสร็จเรียบร้อยแล้ว พิธีการต่อไปก็คือการนำของจากขบวนขันหมากมาจัดวางเรียงกัน จากนั้นเฒ่าแก่ฝ่ายชายจะเริ่มการเจรจาสู่ขอ เมื่อตกลงยินยอมยกลูกสาวให้ ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวจะนำพานสินสอดออกมาเปิด เพื่อเข้าสู่พิธีนับสินสอด และจัดวางอยู่บนผ้าแดงหรือผ้าเงินผ้าทอง (อย่าลืมเตรียมผ้าสีมงคลสำหรับรวบห่อสินสอด ต้องเป็นผืนใหญ่เพื่อให้แม่เจ้าสาวแบกขึ้นบ่าได้ และตอนแบกขึ้นอย่าลืมพูดเอาเคล็ดว่าห่อนี้หนัก คงมีเงินทองมากมาย เคล็ดลับเพื่อให้คู่บ่าวสาวมีเงินงอกเงย ให้ใส่สินสอดเกินจำนวนไว้เล็กน้อย แล้วทำทีเป็นตรวจนับตามธรรมเนียม เพื่อเป็นเคล็ดว่าคู่บ่าวสาวอยู่ด้วยต่อไปเรื่อย ๆ จะมีเงินงอกเงย) ทั้งนี้ หลังจากนับสินสอดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจะช่วยกันโปรยถั่ว งา ข้าวเปลือก ข้าวตอก ดอกไม้ ใบเงิน ใบทอง ที่บรรจุมาในพานขันหมากเอกลงบนสินสอด ต่อมาแม่ของเจ้าสาวจะห่อสินสอดด้วยผ้า แล้วแบกขึ้นไว้บนบ่าตามประเพณี

Cr. ภาพ Jakawin Photography

5.สวมแหวน

หลังจากที่ได้นับสินสอดกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อถึงเวลาฤกษ์อันเป็นมงคลตามที่กำหนด ฝ่ายเจ้าบ่าวจะทำการสวมแหวนหมั้นให้ฝ่ายเจ้าสาว จากนั้นฝ่ายหญิงไหว้พร้อมกับสวมแหวนแลกกับฝ่ายชาย เมื่อสวมแหวนเสร็จมักจะมีการถ่ายรูปกันเป็นที่ระลึก และรอเวลาที่จะประกอบพิธีสำคัญต่อไป

Cr. ภาพ Jakawin Photography

6. หลั่งน้ำพระพุทธมนต์

สำหรับการทำพิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์และประสาทพร เริ่มจากบ่าวสาวจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จากนั้นไปนั่งที่ตั่งเพื่อทำพิธีรดน้ำสังข์ ซึ่งเจ้าสาวต้องนั่งด้ายซ้ายของเจ้าบ่าวเสมอ ประธานในพิธีคล้องพวงมาลัย สวมมงคลแฝดบนศีรษะของบ่าวสาว พร้อมกับเจิมที่หน้าผากมงคลแฝด และแป้งเจิมที่นำมาใช้นั้นเป็นของที่ได้ผ่านพิธีมงคลมาเรียบร้อย จากนั้น ประธานหลั่งน้ำอวยพรให้บ่าวสาว ตามด้วยพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ ผู้ร่วมงานที่เป็นผู้ใหญ่ และเชิญแขกอื่นๆ เข้ารดน้ำตามลำดับความอาวุโส และก่อนจะลุกจากที่นั่งมีความเชื่อนิดนึงว่าหากบ่าวสาวฝ่ายใดลุกยืนก่อน ฝ่ายนั้นจะได้เป็นผู้อยู่เหนืออีกคนค่ะ ดังนั้นผู้ใหญ่จึงบอกให้ช่วยประคองกันลุกขึ้นแทนนะคะ

Cr. ภาพ Box Wedding

7. พิธีไหว้ผู้ใหญ่

พิธีรับไหว้ หรือ พิธีไหว้ผู้ใหญ่นั้นเริ่มจาก คู่บ่าวสาวยกพานธูปเทียนแพ และผ้าไหว้ คลานไปกราบบิดามารดาก่อน ถือเป็นการฝากเนื้อฝากตัว ซึ่งผู้ใหญ่จะรับ ผ้ารับไหว้ นั้นไว้ แล้วผู้ใหญ่จะทำการรับไหว้ ด้วยซอง สิ่งของมีค่า เงินทุน สร้อยคอทองคำ พร้อมทั้งให้ศีลให้พร จากนั้นจึงนำเงินรับไหว้ หรือของมีค่าใส่ลงพานไหว้ ผู้ใหญ่จะผูกข้อไม้ข้อมือด้วยสายสิญจน์เพื่อเป็นการรับขวัญคู่บ่าวสาว จากนั้นคู่บ่าวสาว จึงยก ของรับไหว้ ที่เตรียมไว้ ไหว้ผู้ใหญ่ท่านอื่นๆ เรียงตามลำดับอาวุโส เมื่อผู้ใหญ่รับไหว้แล้ว ก็จะมีการนำเงิน ทอง ของมีค่าใส่ในพานให้ หากญาติๆ จะช่วยเพิ่มทุนก็สามารถทำได้ การกราบผู้ใหญ่ หากเป็นพ่อแม่ หรือญาติผู้ใหญ่อาวุโสเช่น ปู่ ย่า ตา ยาย กราบ 3 ครั้ง ส่วนญาติอื่นๆ กราบ 1 ครั้ง ไม่ต้องแบมือ

Cr. ภาพ Jakawin Photography

8. สุดท้ายนี้คือพิธีส่งตัวเข้าเรือนหอ หรือ พิธีร่วมเรียงเคียงหมอนหรือพิธีปูที่นอน

ถือเป็นพิธีสำคัญในช่วงสุดท้าย (สำหรับคู่ที่มีฤกษ์ยามในช่วงเช้า หรือคู่ที่ถือฤกษ์สะดวกอยากทำพิธีให้เสร็จสิ้นในช่วงเวลาเดียวกัน) โดยผู้ใหญ่จะนำเจ้าสาวมาส่งตัวเข้าหอ ซึ่งเจ้าบ่าวจะมารออยู่ที่ห้องหอก่อนแล้ว ส่วนสำคัญของพิธีนี้จะอยู่ที่คู่ผู้ใหญ่ที่จะมาทำพิธีปูที่นอน ก่อนที่จะพาเจ้าบ่าวเข้ามาในห้องหอแล้วเจิมหน้าผาก และนำตัวเจ้าสาวเข้ามา โดยที่เจ้าสาวจะต้องกราบพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ของตัวเองเพื่อเป็นการขอพร และเมื่อเจ้าสาวเข้ามาในห้องแล้ว แม่เจ้าสาวต้องเป็นคนพามามอบให้กับเจ้าบ่าว พร้อมพูดจาฝากฝังให้ช่วยดูแลลูกสาวด้วย จากนั้นจะกล่าวให้โอวาทเกี่ยวกับการใช้ชีวิตคู่ ในขั้นตอนนี้ธรรมเนียมบางท้องถิ่นจะให้พ่อแม่เจ้าสาวเป็นผู้กล่าวก็สามารถทำได้เช่นกัน

ส่วนพิธีร่วมเรียงเคียงหมอน หรือพิธีปูที่นอนนั้น จะเริ่มจากการจัดปูที่นอนในห้องหอ โดยพ่อแม่จะเชิญผู้ใหญ่คู่สามีภรรยาที่มีครอบครัวอบอุ่นสมบูรณ์ ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกัน เป็นที่นับหน้าถือตาในสังคมมาช่วยปูที่นอนให้ เพื่อถือเคล็ดให้คู่บ่าวสาวจะได้มีชีวิตคู่ที่ดี โดยที่ผู้ใหญ่ที่ทำพิธีปูที่นอนนี้จะต้องอาบน้ำให้สะอาด แต่งตัวเรียบร้อย แล้วจึงเข้ามาในห้องหอ เพื่อจัดเรียงหมอน 2 ใบ แล้วปัดที่นอนพอเป็นพิธี จากนั้นจัดวางข้าวของประกอบพิธีลงบนที่นอน ได้แก่ หินบดยาหรือหินก้อนเส้า, ฟักเขียว, แมวคราว (แมวตัวผู้ที่อายุมากแล้ว), พานใส่ถุงข้าวเปลือก งา ถั่วทองหรือถั่วเขียว และขันใส่น้ำฝนมาประกอบพิธีอีกด้วย ส่วนการนอนผู้ชายต้องนอนทางขวาและผู้หญิงต้องนอนทางซ้าย เพราะถือว่าสามีเป็นผู้ให้ความดูแลคุ้มครอง โดยสาเหตุที่เจ้าบ่าวนอนด้านขวาเพราะส่วนใหญ่แล้วห้องนอนของแต่ละบ้านในสมัยก่อนประตูจะอยู่ด้านขวามือ หากมีเหตุอันตรายสามีจะสามารถคุ้มครองปกป้องภรรยาของตนได้ เพราะถือว่าผู้ชายมีความแข็งแรงกว่าหญิง ควรทำหน้าที่ดูแลปกป้องนั่นเอง เท่านี้ก็เป็นอันประกอบพิธีแต่งงานช่วงเช้าเสร็จสิ้น

การแต่งงานแบบไทยนั้น เป็นงานพิธีที่เป็นมงคลสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน อาจจะมีแตกต่างกันบ้างตามแต่ละท้องถิ่น เป็นประเพณีที่ถือปฏิบัติต่อกันมาจนทุกวันนี้ ในสมัยนี้พิธีการแต่งงาน ได้ถูกตัดทอนย่อลงมาก เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน แต่ยังคงรักษาพิธีการแต่งงานตามธรรมเนียมไทยสืบต่อกันมา เป็นอย่างไรบ้างคะเพื่อนๆ หลังจากที่ได้อ่าน  8 ขั้นตอนในพิธีงานแต่งงานช่วงเช้าไปแล้วไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะคะสำหรับการจัดงานแต่งงานในช่วงเช้า ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดของงานแต่งงาน คือ การวางแผน ยิ่งมีเวลาวางแผนไว้ก่อนล่วงหน้ามากเท่าไหร่ ก็จะช่วยให้มีเวลาในการเตรียมตัวมากขึ้น พอถึงวันพิธีก็จะช่วยให้แต่ละขั้นตอนผ่านลุล่วงไปได้เป็นอย่างดี 

หมดยุคแล้วค่ะที่จะมานั่งเหนียมอายในงานแต่งแล้วรอเวลาช่วงโยนดอกไม้เพื่อถลาตัวกันออกไปรับดอกไม้และประกาศตัวว่า “โสด! จีบได้!” เพราะสมัยนี้มันต้องเป็นแบบ “โสดค่ะ! ลุย” อ๊ะๆ แต่ถ้าคุณยังไม่อยากรีบร้อนแค่ลองเชิงดูก่อน งั้นเอาแค่เบาะๆ ในช่วงเริ่มต้นด้วยเทคนิกการอ่อยในงานแต่งแบบเนียนๆ แต่ทำแล้วมีแววได้แฟนมาอย่างจัง

ที่มา : http://gossipstar.mthai.com/instagram/baifernbah/

อ่อยด้วยสายตา

เล็งหนุ่มคนไหนไว้ก็ใช้สายตาลอบมองเขาไว้ค่ะ ลอบมองนะคะไม่ใช่มองแบบจังๆ จนเขาอึดอัด ซึ่งการลอบมองจะทำให้หนุ่มๆ หรือสาวๆ ที่โดนแอบมองรู้สึกแปลกๆ ในเบื้องต้นแต่จากนั้นคนที่โดนลอบมองจะกลายเป็นคนที่มองคุณกลับมาด้วยความสงสัยว่า ทำไมคนนี้มองหน้าเราจัง ซึ่งนี่คือจุดประสงค์ในการอ่อยด้วยสายตาที่เราอยากให้คุณทำ เพราะเมื่อมองกันไปมองกันมาบ่อยๆ ก็มีแนวโน้มที่ความอยากรู้จักจะเกิดขึ้น รวมถึงโอกาสที่คุณจะเริ่มต้นทำความรู้จักกันก็จะง่ายขึ้นค่ะ

ที่มา : http://gossipstar.mthai.com/tv-content/63496

อ่อยสวยๆ ตอนเดินเข้างาน

ถ้ามีหนุ่มๆ มากมายกำลัังเดินเข้างานหรือยืนอยู่บริเวณงาน เราต้องเริ่มอ่อยแบบภาพรวมไปก่อน โดยเริ่มต้นที่การเดินเข้ามาสะกดทุกสายตาทุกคนด้วยท่วงท่าสวยๆ ทั้งท่าเดิน การวางมือ จับผมแต่ถ้าคุณเล็งหนุ่มไว้แล้วละก็ ตามหลังเขาไปค่ะ จากนั้นใช้ทริก “บังเอิญใจตรงกันเข้าอ่อย” ไม่ว่าจะเป็นจังหวะการเดิิน การหมุนตัวออกจากจุดเซ็นต์พร้อมกันแต่ดันเสียหลักเซไปโดนเขาอะไรแบบนั้นก็อ่อยแบบเนียนได้สบายๆ แต่ในกรณีที่แขกเยอะก็หาทางที่จะหันมาเจอหน้าสวยๆ ของคุณ ซึ่งถ้าหน้าเจอหน้าแล้วอย่าลืมอ่อยเบาๆ ด้วยรอยยิ้มนะคะ แผนอ่อยนี้รับรองสำเร็จอย่างแน่นอน

ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=7_wAxM-gd9c

อ่อยตามมุมถ่ายรูป

อยู่คนเดียวที่มุมนี้หรือเปล่าคะ ยกมือถือขึ้นมาเซลฟี่เองซะแต่ทำให้ดูเหมือนว่าถ่ายเท่าไหร่ไม่ได้มุมถูกใจสักทีแล้วขอให้หนุ่มที่เล็งไว้ช่วยถ่ายให้ วิธีโบราณๆ นี่แหละที่ทำให้เขาเห็นความน่ารักของคุณในเบื้องต้น แผนต่อไปคือทำใจกล้าถามไปเลยว่าอยากให้คุณถ่ายให้บ้างไหม ซึ่งส่วนใหญ่หนุ่มๆ จะปฎิเสธ ทีนี้ก็เข้าทางค่ะ!! ชวนถ่ายด้วยกันซะเลย ตอนนี้แหละที่เขาจะเริ่มคิดลังเลว่าคุณถามตามมารยาทหรือกำลังสนใจเขา จากนั้นก็…มาเริ่มต้นรู้จักกันดีกว่าป่ะละคะ

ที่มา: https://matemnews.com/2017/07/24/

ยืมมือเพื่อนสาวแก๊งชะนีช่วยอ่อย

ถ้าคุณไม่กล้าแสดงออกเพียงลำพังที่จะอ่อยหนุ่มในงานแต่งงานก็รอเพื่อนพ้องชะนีสาวมาถึงงาน แล้วใช้พลังสาวโสดช่วยกันบิ้วท์ก็ไม่เลว โดยอาศัยเพื่อนในกลุ่มของคุณที่เป็นชะนีใจกล้าทำหน้าที่ชงให้คนที่คุณเล็งไว้รู้ว่าคุณสนใจ ซึ่งบางรายอาจแค่ส่งสัญญาณเปิดทางให้คุณได้เริ่มคุยกัน แต่บางรายจัดหนักเดินหน้าขอไอดีไลน์มาให้ ทริกเด็ดคือ แค่ขอจากเขาแต่ไม่บอกว่าสาวนางไหนอยากได้ วิธีนี้ยังได้รู้ด้วยนะว่าเขาสนใจคุณหรือเพื่อนคุณ เพราะมีแนวโน้มสูงมากที่เขาจะถามกลับมาว่า ใช่คนนั้นหรือเปล่าที่ให้มาขอ ถ้าเป็นแบบนี้ก็ลุ้นกันค่ะว่าคนที่ว่าคือคุณหรือเปล่า

ที่มา : http://maanow.com/%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%

อ่อยด้วยกิจกรรมร่วม

กิจกรรมร่วมที่ถือเป็นโอกาสอ่อยเนียนๆ ก็จังหวะที่ช่างภาพเรียกแก๊งเพื่อนมารวมกันเพื่อถ่ายภาพแห่งความทรงจำนั่นไงคะ ไม่ว่าจะหน้าฉากถ่ายภาพ ซึ่งตรงนี้แหละที่คุณต้องจับจังหวะให้ดีว่าคนที่คุณสนใจจะร่วมเฟรมหรือเปล่า เพราะถ้าเมื่อไหร่เขาเข้าเฟรมละก็ เข้าด้วยทันทีค่ะ แล้วอย่าลืมไปยืนข้างๆ นั่งข้างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสการทำความรู้จักหรืออาจใช้มุกเนียนๆ หยิบมือถือมาถ่ายภาพเล่นกันต่อในกลุ่มใหญ่ ทีนี้ล่ะใครต่อใครที่แม้ไม่รู้จักกันก็จะได้รู้จักสักที ซึ่งหนึ่งในนั้นต้องมีคุณและเขาแน่นอน

ที่มา : http://www.thaitv48ch.com/เรื่องย่อละครโปรเจกต์

อ่อยด้วยการขอความช่วยเหลือ

การอ่อยในข้อนี้คุณต้องอาศัยทั้งความกล้าที่จะแสดงออกในสิ่งที่ตรงข้ามกับชีวิตจริงสักหน่อยด้วยการหาเหตุขอความช่วยเหลือจากหนุ่มที่คุณเล็งไว้ในจังหวะที่คุณต้องมั่นใจว่าไม่หน้าแตกกลับมาแน่ๆ อย่างการขอความช่วยเหลือให้เขาช่วยหยิบเครื่องดื่มไปส่งก็ไม่เลวนะคะ แต่คุณต้องหยิบมากกว่าสองแก้วนะคะจะได้สมเหตุสมผลว่าของล้นมือ ซึ่งถ้าเขาไม่ใช้ตุ๊ดหรือรำคาญชะนีจริตเยอะจะยื่นมือมาช่วยประคองแก้วและเดินไปส่งคุณที่โต๊ะแน่นอน

ที่มา :  http://drama.tlcthai.com/teaser%E0%B8%AB%E0%B8

อ่อยระบบสัมผัส

ก็คืออ่อยแบบแตะนิดโดนหน่อยนั่นแหละค่ะ แค่เอื้อมมือไปแตะไหล่ จับแขนแสดงออกซึ่งความสนิทสนมด้วยอารมณ์สนุกในงานปาร์ตี้แต่งงาน แต่อย่าถึงขั้นสัมผัสหน้าเด็ดขาดแบบนั้นมีเหวอบวกความกลัวในความกล้าของคุณอย่างแน่นอน ถ้าจะให้ดี เอาแค่เนื้อชนเนื้อที่มือก็พออย่าเพิ่งเลยเถิดจนไก่ตื่นเด็ดขาด บอกตรงนี้เลยว่าแค่แตะนิดๆ หนุ่มๆ เขาก็รู้แล้วล่ะว่าคุณเนียนอ่อยอยู่

ที่มา : http://www.thaitv48ch.com/เรื่องย่อละครโปรเจกต์

อ่อยด้วยความร่าเริงเพื่อสานสัมพันธ์

หลังจากที่คุณได้ทำการอ่อยทุกแบบข้างต้นมาแล้วก็เข้าสู่การอ่อยขั้นเทพ กับการอ่อยโดยใช้ความรู้สึกสนใจเขาที่คุณแสดงออกมาตั้งแต่แรกบวกกับนิสัยความร่าเริงของคุณ แต่ต้องทำโดยไม่ทิ้งลายความเป็นสตรีไทยด้วยนะคะ คุณควรแสดงออกซึ่งความเป็นคนเฟรนลี่ สนุกสนานมีความร่าเริงน่าคบหา แต่แฝงไว้ซึ่งจุดประสงค์ที่อยากได้เขาเป็นคนพิเศษ ฉะนั้นตั้งแต่เริ่มต้นไม่ต้องขอเบอร์ขอไลน์ แต่ก่อนจากต่างหากที่ไม่ควรพลาดขอไลน์เขามาเพื่อสานสัมพันธ์กันต่อไปยังไงละคะ

ลองฝึกทำกันดูนะคะ  8 วิธีการอ่อยแบบง่ายๆ รับรองว่าถ้าคุณอ่อยได้เนียนๆ อย่างมีศิลปะ คุณจะได้มีโมเม้นหวานๆ แบบบ่าวสาวบนเวทีสักวันอย่างแน่นอนค่ะ 

สมคำร่ำลือจริงๆ สำหรับงานฉลองวันเกิดของเซเลปสาว “แหวนแหวน ปวริศา” หลังจากร่อนการ์ดเชิญสุดหรูหราไปให้เพื่อนๆ และพี่น้องในวงการบันเทิง ได้รับแทบจะทุกคนแบบล่วงหน้าเกือบเดือนเต็ม และกำหนดธีม “ทวิภพ” ย้อนกลับไปในยุค รศ.112 เพื่อให้ทุกคนได้เตรียมตัวแต่งกายมาประชันกันอย่างเต็มที่ แต่ละชุดสามารถนำมาประยุตใช้ในงานแต่งงานได้อย่างไรสำหรับว่าที่เจ้าสาว ที่กำลังมองหา ชุดไทย วันนี้ BOX WEDDING ตามไปเก็บภาพบรรยากาศ ชุดไทยมาฝากสาวๆกันค่ะ

ประเดิมชุดแรกกับเจ้าภาพงานวันนี้  ที่มีความเวอร์วังชุด สวยสะกดทุกสายตามาแล้วทุกปี ในปีนี้เธอไม่ทำให้ผิดหวัง เดินสวยออกมาในชุดไทยประยุกต์และโจงกระเบนระยิบระยับด้วย เพชรสวารอฟสกี้ ปักบนผ้าฝรั่งเศสสีทอง ได้การออกแบบจากดีไซเนอร์ไทย คุณเกสินี กล่ำอยู่สุข และคุณสุดจิตร์ สุดจิตต์ แห่งแบรนด์ Finale wedding studio สนนราคา 359,000 บาท

ชุดไทยสีแดง ดุจดั่งอัญมณี ทับทิม เหมาะกับสาวหมวย ที่คงความเป็นไทย ตามความเชื่อของคนจีน สีแดงเปรียบได้กับสีขาวตามความเชื่อของคนไทย คือ เป็นสีทรงพลัง นอกจากนี้ยังถือว่าเป็นสีนำโชคและนำมาซึ่งความสุขและความสำเร็จ แถมยังเป็นสีที่เชื่อกันว่าจะทำให้ชีวิตคู่ของคุณเต็มไปด้วยสีสันอีกด้วย

ชุดไทยในแบบฉบับ คุณปอ ศีกัญญา ศักดิเดช ภาณุพันธ์ ทายาท Renaissance Bangkok Hotel Ratchaprasong ผู้บริหาร แบรนด์ Kipling ประเทศไทย ถูกตัดเย็บโดย คอสตูมตัวจริงจากหนังเรื่องทวิภพ เวอร์ชั่น ที่สาว ฟลอเรนซ์ เป็นผู้รับบทเป็นแม่มณี  โดยเนื้อผ้าที่นำมาตัดเย็บ เป็นผ้าโบราณ  ผ้านุ่งยกทองโบราณ ลายพุ่งเข้า ย้อมด้วยสีธรรมชาติ ผ้าสไบปักทอง กับปีกแมลงทับ

ชุดคู่สำหรับบ่าวสาว ที่ใช้สี และการออกแบบชุด ในโทนเดียวกัน คุณ ศรีริต้า เจนเซ่น ห่มสไบสีเงิน หน้าผมจัดเต็ม จากที่สวยอยู่แล้วก็ยิ่งงามราวกับเดินออกมาจากในวรรณคดีหรือป่าหิมพานต์ยืนคู่กับคนรู้ใจอย่าง กรณ์ ณรงค์เดช ที่แต่งชุดไทยนุ่งโจงมาในโทนสีเดียวกัน

ชุดไทยแบบฉบับในสมัย รัชกาลที่ 5  รศ.112 คู่กับกระเป๋าหญ้าริเพา จากโครงการหลวง หรือใช้ร่ม เป็นพร๊อพ เพราะได้รับอิทธิพลมาจากชาวตะวันตก

และปิดท้ายด้วยชุดสำหรับเจ้าสาวสายฮา ที่ต้องการ พร๊อพเยอะๆ ปังๆ ลองเอาชุดนี้ไปประยุกต์ได้เลยคะ

Tip สำหรับสาวๆที่กำลังมองหาชุดเจ้าสาวในสมัยรัชกาลที่ 5 และอยากหยิบใช้อุปกรณ์ บวกท่าโพส ให้เข้ากับยุค BOX WEDDING มีเกร็ดความรู้มาแนะนำคะ

เครื่องแต่งกาย

สมัยรัชกาลที่ 5 ตอนต้น

          การแต่งกายของหญิง: ผู้หญิงจะนุ่งผ้าลายโจงกระเบน เสื้อกระบอก แขนยาว ผ่าอก ห่มผ้าแพร จีบตามขวาง สไบเฉียงทับบนเสื้ออีกชั้นหนึ่ง ถ้าอยู่บ้านจะห่มแต่สไบ ไม่สวมเสื้อ เมื่อมีงานพิธีจะนุ่งห่ม ผ้าตาด เลิกไว้ผมปี และหันมาไว้ผมยาวประบ่า

สมัยรัชกาลที่ 5 ตอนกลาง

          การแต่งกายของหญิง: ผู้หญิงจะนุ่งผ้าจีบไว้ชายพกแต่หากมีงานพิธีก็ยังคงให้นุ่งโจงกระเบนอยู่ สวมเสื้อแบบตะวันตกแขนยาว ต้นแขนพองแบบหมูแฮม ปกคอตั้ง มีผ้าแพรหรือผ้าห่มสไบเฉียงทับตัวเสื้ออีกที ไว้ผมยาวเสมอต้นคอ สตรีชาววังจะมีผ้าแพรชมพูปักดิ้น มีลวดลายตามยศพระราชทาน สวมรองเท้าบูทและถุงเท้า

สมัยรัชกาลที่ 5 ตอนปลาย

          การแต่งกายของหญิง: ผู้หญิงจะนุ่งโจงกระเบน สวมเสื้อแพรไหม ลูกไม้ ตัดแบบตะวันตก แขนยาว พองฟู เอวเสื้อเข้ารูป มีการคาดเข็มขัดหรือสายห้อยนาฬิกา มีสายสะพายผ้าแพร สวมถุงเท้ามีลวดลายและรองเท้าส้นสูงให้ไว้ผมทรงดอกกระทุ่ม และมักนิยมเครื่องประดับมุกสายสร้อยหลายชั้น

          สตรีสมัยนี้เริ่มใช้เครื่องสำอางอย่างชาวตะวันตกบ้าง นิยมใช้เครื่องประดับสร้อยข้อมือ สร้อยคอ สร้อยตัว (สร้อยเฉลียงบ่า) แหวน กำไล ใส่ตุ้มหูบ้างแต่มักไม่ค่อยใส่กัน เข็มขัดทอง เงิน นาก ถ้าเป็นคนชั้นสูงที่นุ่งจีบจะต้องใช้เข็มขัดคาด ก็มักจะใช้เข็มขัดทองทำหัวมีลวดลายงดงามลงยาประดับเพชรพลอย

ท่าโพส การยิ้ม

          

          

          

          

          สังเกตไหมว่า ในสมัยนั้น มักจะไม่ยิ้ม ในขณะถ่ายรูป จริงๆแล้วเรื่องนี้พอจะมีเหตุผลอธิบายอยู่บ้างในบทความของ Nicholas Jeeves  ได้เขียนสรุปถึงเหตุผลที่เรามักจะเห็นภาพบุคคลสมัยก่อนแบบไม่ค่อยยิ้มกัน ซึ่งเรามาลองดูกันว่าเหตุผลที่ให้มานั้นน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน

          เหตุผลข้อหนึ่งก็คือเรื่องของค่านิยม โดยในศตวรรษที่ 17 ชาวยุโรปเห็นว่าภาพคนยิ้มนั้นเป็นเหมือนตัวแทนของคนที่ยากจนน่าสงสาร ดูทะลึ่งตึงตัง ไม่ก็ก็เป็นพวกขี้เมาหรือเป็นพวกเต้นกินรำกินประมาณนั้น ดังนั้นถ้าอยากดูดีสุขุมนุ่มลึกก็ควรจะงดยิ้มเอาไว้

          แต่เหตุผลข้ออื่นๆที่น่าสนใจก็มีอยู่บ้าง เช่น อาจจะเป็นเพราะคนสมัยก่อนฟันไม่สวย ไม่ว่าจะเป็นเพราะฟันผุหรือฟันเก เพราะทันตกรรมยังไม่เจริญก้าวหน้า เลยหุบยิ้มไว้ดีกว่า บ้างก็ว่าเป็นเพราะการถ่ายภาพหรือเขียนภาพในสมัยก่อนต้องใช้เวลานาน การจะมานั่งยิ้มนานๆก็คงเหงือกแห้งกันพอดี เลยเอาเป็นว่านั่งทำหน้าปกตินิ่งๆไว้ละกัน

เครดิต

Photo : JAKAWIN PHOTOGRAPHY  089-6699665
Video : BOX WEDDING  089-6699665
Decoration : Jirayu The Wedding Planner
Organize : Cloud9
ชุดคุณแหวน แหวน คุณกรณ์ คุณศรีริต้า  คุณทับทิม  : Finale Weddingstudio
เครื่องประดับ : Beauty Gems
MakupArtist : Nongchat (แต่งหน้าคุณแหวน แหวน)

สถานที่ : Mandarin Oriental Bankok

ข้อมูลชุดไทยรัชกาลที่5  http://women.sanook.com/53521

ข้อมูลการยิ้ม  http://www.techxcite.com/topic/14520.html

ข่าวด่วน ! Rare Pokemon โผล่เฉพาะประเทศไทย ตัวแรก สายข่าวรายงานว่าได้พบโปเกม่อนสายพันธ์ใหม่ ซึ่งเกิดที่ประเทศไทยเท่านั้น rare สุดๆ

เจ้า Boxkemon ตัวนี้ เป็น Pokemon สาย ภูตแห่งความรัก เหล่าเทรนเนอร์สามารถพบได้ในสถานที่ ที่มีคลื่นพลังแห่งรักแฝงอยู่ ซึ่งเกิดจากพลังความรักของคนสองคน ไม่ว่าจะเป็นคนรัก ครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงาน เท่านั้นครับ

พลังโจมตีท่าไม้ตายคือ คลื่นพลังรักที่สามารถส่งต่อถึงคนรอบข้างได้นั่นเอง Boxkemon อาจเป็นโปเกม่อนที่มีความน่ารัก แต่ก็มีอนุภาพทำลายล้างมากหากไม่ได้เอาใจใส่ ดูแลเอาใจใส่ สิ่งสำคัญที่สุดเมื่อเหล่าเทรนเนอร์คนใดได้ครอบครองเจ้า Pokemon แห่งความรักนี้ ก็อย่าลืมเอาใจใส่ดูแลให้ดีด้วยนะครับ 😀 สรุปว่าล้อกันเล่นนะครับ อย่าคิดมาก เล่น Pokemon ให้สนุกนะครับ

Credit : BOX WEDDING