Monthly Archives: August 2017

10 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ขอพรความรัก

คนโสด ก็อยากเจอจะเนื้อคู่ คนมีคู่ก็อยากจะครองรักกับคนรักไปนานๆ เพราะไม่ว่าใครก็อยากจะเจอความรักที่ดี มีความสุข สมหวังกันทั้งนั้นใช่ไหมคะ วันนี้ Box Wedding จึงขอนำเสนอ “10 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ขอพรความรัก” ที่ใครต่อใครต่างการันตีว่า ถ้าได้ไปกราบสักการะแล้วจะสมหวังในเรื่องความรักดั่งใจหมายอย่างแน่นอน หนุ่มสาวคนไหนที่กำลังอยากเจอเนื้อคู่ ต้องลองไปกราบสักการะกันดูนะคะ ส่วนใครที่กำลังอินเลิฟกันอยู่ก็เดินทางไปขอพรให้รักนิรันดร์ได้เช่นกันค่ะ จะมีสถานที่ไหนบ้างนั้น อย่ามัวรอช้า ไปอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ…

 

1. สถานที่ไหว้พระขอความรัก ศาลพระตรีมูรติ (ลาน Central World)

ภาพจาก http://www.thaiday.com/Daily/ViewNews

สถานที่ไหว้ขอพรด้านความรัก อันดับหนึ่งเห็นจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้ นอกจาก “ศาลพระตรีมูรติ” เทพเจ้าแห่งความรัก  แห่งแยกราชประสงค์บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้า  Central World  ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของการขอความรัก

สถานที่ตั้ง ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ สี่แยกราชประสงค์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

เวลาที่ควรมาสักการะ ปกติสามารถขอพรได้ทุกวัน หากแต่ฤกษ์ที่ดีที่สุดในการขอพรคือ วันพฤหัสบัดี เวลา 9.30 น. และ  21.30 น. เพราะเชื่อกันว่าเวลานี้เป็นเวลาที่เหล่าทวยเทพจะลงมายังโลกมนุษย์เพื่อรับคำและประทานพรให้แก่ผู้ที่มาขอพร และจะศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก

สิ่งที่ควรนำมาถวาย  เครื่องสักการะควรเน้นสีแดง เช่น ดอกกุหลาบสีแดง 9 ดอก, ธูปแดง 9 ดอก, เทียนคู่สีแดง และมีเทคนิคคือจะต้องวางติดกันเพื่อถือเคล็ดให้ได้เจอคู่ครองสมใจ  หากใครมีคนรักอยู่แล้วเมื่อมาขอพรพระตรีมูรติก็จะทำให้รักกันมากขึ้น  หากสิ่งอธิษฐานได้สมหวังดั่งใจจะต้องหานำของมาถวาย เช่น มะพร้าว, น้ำอ้อย, นมสด หรือของหวานอื่นๆ แล้วแต่ศรัธา (ที่สำคัญห้ามถวายอาหารคาวนะคะห้ามถวายของคาวทุกชนิด)

การเดินทาง สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีชิดลม ใช้ทางออกที่ 9 ซึ่งจะมีทางเชื่อมโดยตรงสู่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ จากนั้นให้เดินไปบริเวณหน้าห้างอิเซตัน

2. สถานที่ไหว้พระขอความรัก พระแม่อุมาเทวี  (วัดแขก สีลม)
                                        ภาพจาก http://www.hindumeeting.com/forum
 หากอยากมีความรักที่สมหวังและจริงจัง มั่นคงขึ้นมาอีกระดับ เราแนะนำให้มาที่ “วัดแขก” หรือ “วัดพระศรีมหาอุมาเทวี” ย่านสีลม เพื่อสัการะบูชาพระแม่อุมาเทวี  เนื่องด้วยพระแม่อุมาเทวีนั้น ขึ้นชื่อในเรื่องศรัทธาและรักมั่นคงต่อองค์พระศิวะ

วัดแขกเป็นวัดเก่าแก่อายุมากกว่า 100 ปี มีสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น เป็นศิลปะแบบอินเดียตอนใต้ ผสมผสานกันระหว่างสมัยโชละและปาลวะ อีกทั้งยังเป็นที่ประดิษฐานของพระศรีมหาอุมาเทวี หรือพระแม่อุมา ซึ่งเป็นพระมเหสีของพระอิศวรหรือพระศิวะ โดยเชื่อกันว่าพระแม่อุมาเป็นเทวีที่มีความเมตตากรุณาสูงและรักพระศิวะยิ่งนัก การได้มากราบไหว้ขอพรจากท่าน จึงเป็นการเสริมดวงในเรื่องความรัก ใครที่มีคู่ครองอยู่แล้วก็จะประสบความสำเร็จในการด้านการใช้ชีวิตกับคนรัก ใครที่โสดก็จะได้พบเนื้อคู่เร็วขึ้น

สถานที่ตั้ง วัดพระศรีมหาอุมาเทวี  2 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร

เวลาที่ควรมาสักการะ วัดแขกจะเปิดให้สักการะทุกวัน โดยเวลาเปิด วันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 6.00-20.00 น. วันศุกร์ เวลา 6.00-21.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 6.00-20.30 น. ในช่วงวันขึ้น 1-9 ค่ำ ของทุกๆ ปี ประมาณเดือนตุลาคม รวม 9 วัน 9 คืนนั้น เป็นเป็นช่วงเวลาของเทศกาลดูเซร่า หรือนวราตรี ของชาวฮินดู ซึ่งเป็นงานแห่พระแม่อุมา และเชื่อกันว่าในช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่พระแม่และขบวนเทพจะเสด็จมายังโลกเพื่อประทานพรให้กับมนุษย์

สิ่งที่ควรนำมาถวาย ห้าม! นำของคาว เข้าบริเวณโบสถ์ ส่วนของไหว้ทางวัดจะจัดลงถาดไว้ให้ ราคาถาดละ 60 บาท ในถาดจะมีธูป เทียน พวงมาลัยดาวเรือง นม กล้วย มะพร้าว อ้อย จุดขายจะอยู่บริเวณหน้าทางเข้าโบสถ์เลย เงินที่ได้เค้าเอาไว้บำรุงวัด และสร้างสิ่งต่างๆ แต่หากอยากถวายเพิ่มสามารถเตรียมไปเองหรือหาซื้อเพิ่มได้ที่บริเวณรอบนอกมีขายแต่ราคาสูงกว่าเล็กน้อย

การเดินทาง สามารถนั่ง bts ลงสถานีศาลาแดง ทางออกที่ 2 จากนั้นนั่งรถสาธารณะไปตามถนนสีลม โดยวัดแขกจะอยู่ที่มุมถนนสีลมและถนนปั้น นอกจากนี้ยังมีรถประจำทางสาย 17,77,115,163,164,504 ผ่านด้วย

ข้อห้าม   1.ห้ามนำของคาว เข้าบริเวณโบสถ์ ในที่นี้หมายถึงเนื้อสัตว์ทุกชนิด เพราะฮินดูถือมากค่ะ ถวายได้เฉพาะ นม ผลไม้ ขนมอินเดียที่ทำจากนมน้ำตาลต่างๆ

2.ผู้หญิงมีประจำเดือนห้ามเข้าบริเวณโบสถ์ค่ะ ทางที่ดีควรเลือกไปไหว้ ในช่วงไม่มีรอบเดือน เพราะทางศาสนามีความเชื่อและถือว่า กายของหญิงที่มีรอบเดือนเป็นกายที่ไม่สะอาด ในช่วงนั้นถือว่าลบหลู่สถานที่รวมถึงเทพ/เทวีอันศักดิ์สิทธิ์ด้วยค่ะ แต่ถ้าใครมีใจศรัทธาไปไหว้โดยยไม่ทราบมาก่อน หรือไม่เจตนาจริงๆ ก็ไม่ต้องคิดมากคะ ไม่เจตนา/ไม่ทราบไม่ผิดคะ

3. สถานที่ไหว้พระขอความรัก พระแม่ลักษมี (เกษรพลาซ่า แยกราชประสงค์)

ภาพจาก http://www.khanpak.com/content/24832/

พระแม่ลักษมี” เป็นเทพนารีผู้มีน้ำพระทัยเมตตาอยู่เป็นนิจ เป็นตัวอย่างแห่งสตรีที่งามพร้อมทั้งรูปและกิริยามารยาท มีวาจาไพเราะ ทั้งถือกันว่าเป็นผู้นำมาซึ่งความเจริญทุกประการ และพระแม่เป็นชายาที่ซื่อสัตย์ของพระนารายณ์และทรงเป็นที่รักยิ่งของพระสวามี ทำให้ผู้คนต่างศรัทธาและหลั่งไหลกันมาสักการะขอพรในเรื่องความรัก มีความเชื่อว่าไม่เพียงขอให้ได้สมหวังในเรื่องของความรักกับคนที่เรารักแล้วนั้น ยังได้ในเรื่องของรักแท้และซื่อสัตย์กับเราเพียงคนเดียวอีกทางหนึ่ง

สถานที่ตั้ง อยู่ที่ดาดฟ้าชั้น 4 เกษรพลาซ่า ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

เวลาที่ควรมาสักการะ  เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าสักการะได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.

สิ่งที่ควรนำมาถวาย ของไหว้ได้แก่ธูป 9 ดอกและบัวสีชมพู ส่วนของที่นิยมนำมาแก้บนคือ น้ำอ้อย หรือผลไม้รสอ่อนๆ เช่น มะพร้าว ขอแนะนำให้เตรียมเครื่องสักการะที่ต้องการไหว้มาเอง เพราะบริเวณนี้ไม่มีร้านค้าจำหน่ายของไหว้เหมือนเทวสถานแห่งอื่น

การเดินทาง วิธีเดินทางไปเกษรวิลเลจที่สะดวกที่สุด คือใช้บริการรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีชิดลม จากนั้นเดินต่อไปตามทางเชื่อม BTS Skywalk อีกราว 150 เมตร

 

4. สถานที่ไหว้พระขอความรัก พระกฤษณะ วัดเทพมณเฑียร (เสาชิงช้า)
                          ภาพจาก http://www.siamganesh.com/hindusamaj.html
พระกฤษณะ เป็นเทพอีกองค์หนึ่งที่สาวโสดหรือผู้อยากสมหวังในเรื่องของความรัก ต้องอย่าพลาดเป็นเด็ดขาด เพราะท่านขึ้นชื่อมากในเรื่องของการให้พรความรัก มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าสมหวังด้านความรักมาหลายรายแล้ว และมีความเชื่อว่าเมื่อยามท่านใช้ชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์ ท่านมีสนมมากถึง 10,000 คน แต่ถึงอย่างไรท่านก็มีจิตใจรักมั่นต่อนางราดานะคะ หญิงเลี้ยงวัว เป็นรักแรกของพระกฤษณะ ทำให้ความรักครั้งนั้นประทับใจและฝังอยู่ในใจของพระกฤษณะตลอดจนชั่วอายุขัย

สถานที่ตั้ง :  โบสถ์เทพมณเฑียร  จะอยู่ใกล้กับเสาชิงช้า ฝั่งตรงข้ามกับวัดสุทัศน์เทพวราราม

เวลาที่ควรมาสักการะ  เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-20.00 มีเวลาปิด 3 ชั่วโมง ระหว่างเที่ยง-บ่ายสาม
พิธีกรรมภายในวัดเทพมณเฑียรในแต่ละวัน เรียกว่า “พิธีอารตี” คือการถวายไฟแก่ทวยเทพ มีขึ้นทุกวันตั้งแต่ 06.00-08.00 น. (ในวันอาทิตย์ มีจนถึง 10.00 น. หรือ 11.30 น.) และตอนเย็นของทุกวันตั้งแต่เวลา 18.30-19.30 น. ผู้ศรัทธาสามารถเข้าร่วมพิธีกรรมได้โดยไม่ต้องขออนุญาต

สิ่งที่ควรนำมาถวาย แนะนำให้ถวายเงินตามกำลังศรัทธาเพื่อช่วยบำรุงโบสถ์
การถวายดอกไม้ พวงมาลัย ขนมต่างๆ ให้จัดเตรียมไปเอง เนื่องจากไม่มีจำหน่ายภายในวัด

การเดินทาง วัดเทพมณเฑียรตั้งอยู่ในโรงเรียนภารตวิทยาลัย (ใกล้กับโบสถ์พราหมณ์ เสาชิงช้า)เมื่อเดินทางถึงโรงเรียนภารตวิทยาลัย ให้แจ้งความประสงค์แก่ รปภ. หน้าโรงเรียนว่าต้องการมาไหว้พระจากนั้นขึ้นลิฟท์หรือบันไดด้านใน ไปยังชั้น 3 จะพบโบสถ์อยู่ภายใน เข้าไปไหว้เทพได้ทุกพระองค์มีชาวไทยไปสักการะเทพและนั่งสมาธิทุกวัน พราหมณ์และเจ้าหน้าที่ภายในยินดีเบิกเนตรเจิมองค์พระให้

 

5. ศาลย่านาค วัดมหาบุศย์

     ภาพจาก http://thailandtopvote.com/wp-content/uploads/2016/05/prakanhong4.jpeg

ตำนานความรักอมตะที่สืบต่อมายาวนาน ในเรื่องความรักที่มั่นคงของหญิงสาวนามว่า “นาค” และชายหนุ่มนามว่า “มาก” และสืบเนื่องจากตำนานเก่าแก่นี้ ทำให้มีศาลของย่านาคอยู่ที่ วัดมหาบุศย์ ย่านพระโขนง มีคำร่ำลือว่า ใครที่มาขอพรเรื่องความรักมักจะสมหวังหรือแม้กระทั่งเรื่องไปจับใบดำใบแดงเกณฑ์ทหารก็สัมฤทธิ์ผลมานักต่อนักแล้ว

สถานที่ตั้ง วัดมหาบุศย์ ซอยสุขุมวิท 77 (ถนนอ่อนนุช) เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร
เวลาที่ควรมาสักการะ  ศาลแม่นาคพระโขนง เปิดให้สักการะบูชาทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7:30 – 17:30

การสักการะบูชา ให้จุดธูป 2 ดอก พร้อมดอกไม้หรือพวงมาลัย โดยอาจจะซื้อผ้าเจ็ดสีเจ็ดศอกมาพันรอบต้นไม้ บางคนถวายของไหว้ เช่น ชุดไทย สำหรับแม่นาค หรือชุดเด็กและของเล่นเด็กสำหรับลูกแม่นาค บางคนก็เอารูปวาดที่จินตนาการว่าเป็นแม่นาคมาถวาย รูปแบบของการบูชาก็แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละคนค่ะ

การเดินทาง นั่งรถไฟ้ฟ้า BTS มาลงที่สถานีอ่อนนุช  จากนั้นเดินลงบันไดทางประตูออกที่ 1 และเรียกรถสาธารณะบอกไปวัดมหาบุศย์ บริเวณนั้นจะมีรถสองแถว มอเตอร์ไซค์รับจ้างให้บริการค่ะ

 

6. ศาลขวัญ-เรียม

    ภาพจาก http://thailandtopvote.com/wp-content/uploads/2016/05/prakanhong4.jpeg

 

คลองแสนแสบแห่งทุ่งบางกะปิ ต้นกำเนิดตำนานรักอันน่าเศร้า ที่เล่าขานว่าเรียมนั้นใช้มีดแทงตัวตายตามอ้ายขวัญ หนุ่มคนรัก ณ ท้องน้ำ อันเป็นที่พลอดรักของคนทั้งคู่ และท้องน้ำแห่งคลองแสนแสบนี้เอง ยังเป็นสายน้ำที่ไหลสู่ศาลเจ้าพ่อไทร สถานที่ที่ขวัญกับเรียมเคยสาบานว่า จะรักกันตราบจนความตายจะมาพรากจาก…

จากเรื่องเล่าขานกลายเป็นตำนานมีชีวิต เมื่อชาวบ้านได้นำรูปปั้นขวัญ-เรียมขี่ควาย มาไว้ข้างๆ กับศาลต้นไทร สถานที่ที่คนทั้งคู่เคยสาบานว่า จะรักกันจวบจนควาวามตายจะมาพรากจาก
ศาลแห่งนี้ตั้งเป็นอนุสรณ์ให้รู้ว่า เมื่ออดีต ที่นี่เคยเป็นจุดเริ่มต้นความรักที่ไม่สมหวังของหนุ่มสาวแห่งทุ่งบางกะปิ เมื่อ 78 ปีก่อน จากตำนานเรื่องราวความรักของขวัญ-เรียมนี้เอง ทำให้มีคนจำนวนมาก พากันมาไหว้สักการะขอพรความรัก

สถานที่ตั้ง  ตลาดนํ้าขวัญเรียม ริมคลองแสนแสบ ระหว่างซอยเสรีไทย 60 และ ซอยรามคำแหง 187 บริเวณวัดบำเพ็ญเหนือ และ วัดบางเพ็งใต้

เวลาที่ควรมาสักการะ  เปิดทำการวัน เสาร์- อาทิตย์ และ วันหยุด นักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 6:00 น. – 18:00 น. นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมตักบาตพระทางเรือ 7.30-8.00 น. โทร 081-357-1545  จันทร์-ศุกร์   เวลา ราชการ

การสักกะระบูชา ให้จุดธูป 3 ดอก นิยมถวายนํ้าแดง ดอกไม้ ดอกบัว พวงมาลัย หุ่นรูปปั้นควาย

การเดินทาง  

เส้นทางที่ 1 ถนนสุขาภิบาล 2 (เสรีไทย) รถเมล์ 27 ปอ.502 รถยนต์ส่วนตัว มีที่จอด วิ่งตรงมาจาก The Mall บางกะปิ ผ่านสวนสยามจะเจอปากทางเข้าวัดเลี้ยวเข้ามาได้เลย วัดบำเพ็ญเหนือทางด้านขวา ต้องไปเลี้ยวกลับ

เส้นทางที่ 2 ถนนสุขาภิบาล 3 (รามคำแหง) รถเมล์สาย 113 และ 58 ปอ.113 และ 514

ถ้าเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : วิ่งตรงมาจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ผ่านแยกบ้านม้า ผ่านซอยมิสทีนมาวัดบางเพ็งใต้จะอยู่ทางซ้ายมือ รถยนต์ส่วนตัวที่มาเที่ยวทางตลาดน้ำขวัญเรียม ทางตลาดมีที่จอดรถให้ฟรี

7. สถานที่ไหว้พระขอความรัก พระนอน- วัดโพธิ์
พระนอน - วัดโพธิ์ รวมสถานที่ไหว้พระขอพรความรัก
pha non wat pho - ไหว้พระขอพรความรัก
                                   ภาพจาก http://www.edtguide.com/travel/76868/

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือ ที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ “วัดโพธิ์”  ที่วัดแห่งนี้นอกจากจะขึ้นชื่อในเรื่องการขอโชคลาภและความสำเร็จแล้ว ยังมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างมาอีกว่าการไปไหว้พระนอนวัดโพธิ์ช่วยทำให้หลายคนสมหวังในเรื่องความรักด้วย โดยเฉพาะปีไหนที่ผู้หญิงอายุขึ้นเลข 3 เพราะดาวเลข 3 คือ ดาวความรักของผู้หญิง และตามศาสตร์ เลข 3 คือ พระนอน พระนอนเป็นปางของพระนารายณ์บรรทมสินธุ์  จึงแนะนำให้ผู้หญิงไปขอพรกับพระนอน ซึ่งจะมีสิทธิ์เจอคู่และแต่งงานและต้องเป็นพระนอนที่วัดโพธิ์ด้วย เพราะศักดิ์สิทธิ์มาก

สถานที่ตั้ง : วัดพระเชตุพน วิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร 2  ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง. เขตพระนคร กรุงเทพฯ

เวลาที่ควรมาสักการะ  เปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา : 08.00 – 18.00 น

การสักกะระบูชา ควรไหว้วันอังคาร เพราะเลข 3 คือ วันอังคาร ขนมจีน 3 จับ กับน้ำยาปลา ธูป 8 ดอก เทียนสีผึ้ง 8 เล่ม ดอกบัว 8 ดอก และเงินอีก 8 บาท เมื่อไหว้แล้วให้รอธูปหมด เสร็จแล้วลาขนมจีน เอามากิน เส้นขนมจีนยาวๆ เสมือนสายใยให้ไปเจอะคู่ของตัวเอง

การเดินทาง  วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ตั้งอยู่ริมถนนสนามไชยและถนนมหาราช ติดกับพระบรมมหาราชวัง

 

8. พระธาตุศรีสองรัก จังหวัดเลย

พระธาตุศรีสองรักภาพจาก http://www.touronthai.com/article/94

พระธาตุศรีสองรัก เป็นปูชนียสถานสำคัญที่สุดของจังหวัดเลย ซึ่งก่อด้วยอิฐ สร้างขึ้นในแผ่นดินสมเด็จพระมหาจักรพรรดิผู้ครองกรุงศรีอยุธยาและพระเจ้าไชยเชษฐาผู้ครองกรุงศรีสัตนาคนหุต (เวียงจันทน์) เพื่อเป็นสักขีพยานแห่งความรัก ความสามัคคี สัจจะมิตรไมตรี และเป็นหลักเขตแดนของสองพระนคร

มูลเหตุที่สร้างพระเจดีย์นี้ ด้วยสมัยนั้นพม่ามีกษัตริย์ที่เข้มแข็งในการสงคราม คือพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ และพระเจ้าบุเรงนอง ได้ยกกองทัพมารุกรานกรุงศรีอยุธยา และกรุงศรีสัตนาคนหุต สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ กับพระเจ้าไชยเชษฐา จึงกระทำสัตย์ปฏิญาณต่อกันเพื่อร่วมรบกับพม่า และเป็นที่ระลึกในการทำพระราชไมตรี จึงได้ร่วมกันสร้างพระเจดีย์ไว้เป็นสักขีพยาน ให้ชื่อว่า “พระธาตุศรีสองรัก”ซึ่ง พระธาตุศรีสองรัก นี้มีความเชื่อมายาวนานเกี่ยวกับการขอพรเรื่องความรักและมิตรภาพ

สถานที่ตั้ง : ทางหลวงหมายเลข 2013 อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย

เวลาที่ควรมาสักการะ เวลาเปิด-ปิด 8.00–16.30 น.

การสักการะบูชาพระธาตุ ตามธรรมเนียมปฏิบัติของที่นี่ จะมีการนำเอาเครื่องบูชาพระธาตุมาถวายด้วยการเดินเวียน 3 รอบแล้ววางไว้ที่ฐานของพระธาตุศรีสองรัก เครื่องบูชานี้เรียกว่า “ต้นผึ้ง” ประดิษฐ์จากโครงไม้ไผ่เป็นทรงหอปราสาทขนาดกว้างราว 2 ฟุต สูง 2 ฟุตเศษ กรุรอบด้วยลวดลายงานแทงหยวกจากนั้นประดับด้วย “ดอกผึ้ง” ซึ่งทำจากแผ่นเทียนกลมๆ บางๆ ตากแดดแล้วจับเป็นกลีบ ตรงกลางติดดอกบานไม่รู้โรย หรือขมิ้นหั่นเล็กๆ ต่างเกสรดอกไม้สีสดใส และ เทียนเวียนหัว (เทียนแท่งที่ฟั่นยาวพอคาดได้รอบศีรษะ)

ข้อปฏิบัติเกี่ยวกับองค์พระธาตุศรีสองรัก คือ ไม่ควรนำสิ่งของหรือดอกไม้สีแดงขึ้นบูชา ไม่ควรแต่งกายด้วยชุดสีแดงขึ้นไปนมัสการ เพราะองค์พระธาตุสร้างขึ้นเพื่อสัจจะและไมตรี สีแดงเป็นสัญญลักษณ์ของเลือดและความรุนแรง ไม่ควรกางร่ม สวมหมวกและสวมรองเท้าขึ้นไปบนพระธาตุ ไม่ควรนำเด็กต่ำกว่า 3 ปีขึ้นไปนมัสการ (หมายเหตุ : ก่อนท่านจะทำหรือประกอบพิธีใดๆ ที่เกี่ยวกับองค์พระธาตุขอให้ปรึกษาเจ้าหน้าที่ที่เฝ้าองค์พระธาตุก่อน)

การเดินทาง  พระธาตุศรีสองรักตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหมัน ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 1 กิโลเมตร หรือห่างจากตัวจังหวัด 83 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงหมายเลข 203 แล้วแยกเลี้ยวขวาตรงกิโลเมตรที่ 66 เข้าทางหลวงหมายเลข 2013 อีก 15 กิโลเมตร ถึงอำเภอด่านซ้ายจากนั้นแยกขวาเข้าเส้นทาง 2113 อีก 1 กิโลเมตร

ติดต่อสอบถาม:ททท.สำนักงานเลย โทร. 0 4281 2812,0 4281 1405

 

9. เจ้าแม่เขาสามมุก จังหวัดชลบุรี

เจ้าแม่เขาสามมุก                                              ภาพจาก http://www.chonburimots.go.th/th

จากตำนานหนุ่มแสนกับสาวมุข คู่รักต่างฐานะที่ได้พบรักกันแต่กลับถูกผู้ใหญ่กีดกันจนไม่สามารถครองคู่กันได้กลายเป็นโศกนาฏกรรมแสนเศร้าและกลายเป็นศาลเจ้าแม่เขาสามมุข สถานที่กราบไหว้ขอพรเรื่องความรักของหนุ่มสาวทั้งหลาย จนมาถึงทุกวันนี้โดยเชื่อกันว่าหากคู่รักที่มีความมั่นคง และซื่อสัตย์ต่อกันนำว่าวมาเขียนชื่อตนเองและคนรัก มาถวายก็จะได้ครองรักกันยืนยาวตลอดไป

สถานที่ตั้ง ถนนเลียบเขาสามมุข ใกล้หาดบางแสน อำเภอเมืองฯ จังหวัดชลบุรี

เวลาที่ควรมาสักการะ  เขาสามมุขเป็นพื้นที่สาธารณะจึงผ่านไปชมได้ตลอดเวลาแต่กลางคืนค่อนข้างเปลี่ยว แนะนำให้ไปกราบไหว้ในเวลากลางวันถึง 18.00 น.

การสักการะบูชา  ควรถวายมะพร้าวอ่อน ขนมครกผลไม้ และพวงมาลัย ที่ขาดไม่ได้คือ “ว่าว” ซึ่งตามตำนานว่าวเป็นสื่อที่ทำให้แสนและมุขได้มาพบรักกัน จึงแนะนำให้นำว่าวมาเป็นเครื่องบูชาโดยเขียนชื่อของตัวเองกับคนรักไว้บนนั้นแล้วนำไปแขวนไว้บริเวณศาลเจ้า

การเดินทาง  เขาสามมุขไม่มีรถสองแถววิ่งผ่าน  ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก  แต่สามารถเช่ารถสองแถวจากตลาดหนองมนให้ไปส่งแล้วรอรับกลับได้

– จากอ่างศิลาไปตามทางหลวงหมายเลข 3134 อีกราว 3 กิโลเมตร พบป้ายบอกทางไปเขาสามมุข เลี้ยวขวาไปตามป้ายอีก 1 กิโลเมตร จนถึงศาลเจ้าแม่สามมุข

– จากหาดบางแสน ใช้ถนนเส้นเลียบหาดมุ่งตรงสู่แหลมแท่น จะมีป้ายบอกไปตลอดทาง ห่างจากหาดบางแสนราว 2 กิโลเมตร

 

10.  กู่เจ้าน้อย ศุขเกษม – วัดสวนดอก อ.เมือง จ.เชียงใหม่

ภาพจาก https://board.postjung.com/631601.html

เจ้าน้อยศุขเกษม และ มะเมียะ สาวชาวพม่าอันเป็นตำนานเรื่องจริงที่เล่าขานสืบมาของเมืองเชียงใหม่  เมื่อร้อยกว่าปีก่อน เมื่อครั้งที่เมืองเชียงใหม่ยังเป็นประเทศราชกับกรุงสยาม เจ้าแก้วนวรัฐแห่งเมืองเชียงใหม่ได้แอบส่งเจ้าน้อยศุขเกษมไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนเซนต์แพทริกในพม่า และฟ้าก็ลิขิตให้เจ้าน้อยศุขเกษมให้ได้พบกับมะเมียะสาวชาวพม่า ที่ต่างก็รักและได้สาบานต่อกัน ณ ลานหน้าพระธาตุใจ้ตะหลั่น ว่า จะรักกันตลอดไปและจะไม่ทอดทิ้งกัน หากผู้ใดทรยศต่อความรักที่มีให้กัน ก็ขอให้ผู้นั้นอายุสั้น เมื่อฝ่ายผู้ใหญ่ทราบเรื่องและเห็นว่าไม่เหมาะสมที่จะคบหากับมะเมียะ จึงบังคับให้เจ้านายน้อยแต่งงานกับเจ้าหญิงบัวชุม ตลอดเวลาเจ้าน้อยรักแต่มะเมียะ และดื่มเหล้าทุกวัน ทำให้สิ้นอายุขัยเมื่ออายุ 33 ปี ส่วนมะเมียะออกบวชและรักษาคำมั่นสัญญาที่มีต่อเจ้านายน้อยจนสิ้นอายุขัย ด้วยตำนานรักนี้เองทำให้มีคนจำนวนมากมาสักการะขอพรในเรื่องความรัก ณ สถานที่แห่งนี้

สถานที่ตั้ง วัดสวนดอก พระอารามหลวง  เลขที่ 139 ถนนสุเทพ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่  จังหวัดเชียงใหม่

เวลาที่ควรมาสักการะ  เวลาเปิด-ปิด 08.00-17.00 น.

การสักการะบูชา  ดอกไม้ ธูปเทียน พวงมาลัย

การเดินทาง การเดินทางโดยทางรถยนต์ส่วนตัว /  จากตัวเมืองเชียงใหม่ไปทางถนนสุเทพ ด้านตะวันตก มุ่งหน้าไปทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผ่านโรงพยาบาลมหาราช แล้วโรงพยาบาลประสาท ทางเข้าวัดสวนดอกจะอยู่ทางซ้ายมือเยื้องๆโรงพยาบาล การเดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะ  / เดินทางโดยการใช้รถโดยสารเชียงใหม่ (รถแดง) บอกว่าลงที่วัดสวนดอก

 

สุดท้ายนี้ นอกจากการพึ่งศักดิ์สิทธิ์ ไหว้พระขอพรความรัก อีกสิ่งที่จะทำให้ความรักของเราสองคนมั่นคง ก็คือ ความเข้าใจและการให้อภัย ไม่ว่าจะเป็นความรักของคุณจะเป็นรูปแบบไหน Box Wedding ขออวยพรให้คนโสด เจอเนื้อคู่ไวๆ ส่วนคนที่กำลังมีความรัก ก็ขอมีความสุขสมหวัง รักกับคนรักไปนานๆนะคะ

 

เขียนโดย Box wedding

ภาพโดย Jakawin Photography & Boxwedding

11 ไอเดียของชำร่วยงานแต่งงาน

ในการจัดงานแต่งงาน สิ่งหนึ่งที่คู่บ่าวสาวทุกคู่จะต้องคิดและคำนึงถึง คือ การเลือก “ของชำร่วยงานแต่งงาน” ที่จะมอบเป็นที่ระลึกให้แก่แขกที่มาร่วมงาน หลายๆคนอาจคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่เชื่อไหมคะ ร้อยทั้งร้อย พอเอาเข้าจริงๆ กลับคิดไม่ออกว่าจะให้ของชำร่วยอะไรดี เพราะอันนั้นก็ดีอันนี่ก็ใช่ อีกอันก็ชอบ ไหนๆก็เป็นของชำร่วยงานแต่งงานของตัวเองแล้ว แน่นอนว่า คู่บ่าวสาวคงไม่อยากให้แขกที่ได้รับเชิญมาในงาน เมื่อกลับถึงบ้านก็ทิ้งขว้างของชำรวยที่เราอุตส่าห์เลือกสรรมาอย่างดีใช่ไหมคะ
วันนี้ Box wedding หยิบเอาภาพของชำร่วยงานแต่งงาน น่ารักๆในแบบต่างๆ ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง มาให้ไว้เป็นไอเดีย เผื่อคู่บ่าวที่กำลังมองหาของชำร่วยงานแต่งงาน และยังไม่รู้ว่าจะเลือกอะไรดี จะมีของชำร่วยอะไรน่ารักบ้าง เราลองไปดูกันเลย…
  •  กระเป๋าสตางค์ใบเล็ก เป็นของชำร่วยที่ผู้รับสามารถนำเอามาใช้ได้จริง ประดับตัวอักษรชื่อขึ้นต้นของคู่บ่าวสาว ขนาดเล็กน่ารักกำลังดี แนะนำให้เลือกสีกระเป๋าที่สามารถใช้ได้ทั้งผู้ชายผู้หญิง ถ้าเป็นคุณผู้ชายได้รับอาจจะเอาไว้ใส่กุญแจรถ เศษเหรียญ หรือถ้าเป็นคุณผู้หญิงก็เอาไว้ใส่เหรียญน่ารักๆ หรือใส่ลิปสติกได้คะ

ภาพจาก Jakawin Photography & Box Wedding

 

  •  ขวดโหลหรือขวดแก้วอเนกประสงค์ ภายในอาจจะบรรจุลูกอม ขนม แยม นำผึ้ง ขนาดเล็กน่ารักๆ ผูกด้วยเชือก ริบบิ้น สีต่างๆ อาจจะเป็นสีชมพู สีเขียวมิ้น ก็หวานน่ารักมุ้งมิ้ง พร้อมติกสติกเกอร์ชื่อคู่บ่าวสาว และวันที่งานแต่ง ก็เก๋ น่ารักไปอีกแบบนะคะ

ภาพจาก Jakawin Photography& Box Wedding

 

  • ขวดเซียมซี ของชำร่วยงานแต่ง ไอเดียเก๋ๆอีกรูปแบบหนึ่ง มีคำทำนายแปะอยู่ด้านหน้า นอกจากเป็นของชำร่วยแล้ว ผู้ได้รับอาจนำไปเล่นกับเพื่อน หรือใช้เป็นของประดับตกแต่งบ้านได้อีกด้วย

ภาพจาก Jakawin Photography

 

  • ลิปสติก ของชำร่วยแต่งงานที่เหมาะกับผู้หญิงเป็นอย่างมาก แต่สำหรับคุณผู้ชายอาจจะเอาไปให้แฟนสาวใช้แทน ถือเป็นของชำร่วยอีกรูปแบบหนึ่งที่สามารถนำไปใช้ได้จริง และสาวๆหลายคนต้องชอบมากๆแน่นอนค่ะ

ภาพจาก Jakawin Photography

 

  • สบู่ก้อนน่ารักๆ มีกลิ่นหอม มีสันสวยงาม แปะด้วยชื่อของคู่บ่าวสาว ก็สามารถเป็นของชำร่วยแต่งงานที่ทรงคุณค่า น่ารัก และสามารถนำมาใช้จริงได้อีกด้วย

ภาพจาก Jakawin Photography

 

  • วัตถุมงคล ของชำร่วยที่มีคุณค่าทางจิตใจและทางวัตถุ สามารถเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้ บรรจุอย่างดีอยู่ในกล่องหนังกำมะหยี่ หรืออยู่ในกรอบกระจก เขียนชื่อคู่บ่าวสาว วันเวลาที่แต่งงานระบุไว้ ก็สวยหรูดูดี มีคุณค่าไปอีกแบบนะคะ

ภาพจาก Box Wedding

 

  • สมุดโน้ต หน้าปกอาจจะเป็นรูปวาดคู่บ่าวสาว พร้อมเขียนชื่อคู่บ่าวสาว วันเวลาที่แต่งงาน ติดริบบิ้นน่ารักๆ เป็นอีกหนึ่งของชำร่วยที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อีกด้วย

ภาพจาก Jakawin Photography

 

  • เข็มกลัด ของชำร่วยที่สามารนำมาใช้ได้จริง เป็นเครื่องประดับ มิกซ์และแมทซ์ได้กับทุกชุด ใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เป็นของชำร่วยอีกอย่างหนึ่งที่มีประโยชน์ และมีคุณค่านะคะ

ภาพจาก Jakawin Photography

 

  • พัด ของชำร่วยแต่งงานที่สามารถใช้ได้จริง เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย ขนาดน่ารัก กำลังดี สกรีนชื่อคู่บ่าวสาว วันที่แต่งงาน เป็นของชำร่วยที่น่ารักแบบไทยๆดีนะคะ

ภาพจาก Jakawin Photography

 

  • พวงกุญแจ ของชำร่วยที่เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง มีหลายดีไซน์ น่ารัก หวานๆ เท่ห์ หลากหลายสีสัน หลากหลายสไตล์ เหมาะกับการใช้เป็นของชำร่วยงานแต่งงาน

ภาพจาก Jakawin Photography

 

  • ปฏิทิน ของชำร่วยที่สามารถใช้งานได้จริง ใช้ได้นาน และมีประโยชน์สำหรับทุกเพศทุกวัย เลือกสีหวานๆ น่ารักๆ อาจจะติดริบบิ้นประดับ หรือใช้กระดาษสวยๆ เขียนชื่อคู่บ่าวสาว ก็เป็นของชำร่วยอีกแบบหนึ่งที่น่ารัก และมีประโยชน์มากๆนะคะ

ภาพจาก Jakawin Photography

 

  • รูปถ่าย อีกหนึ่งของชำร่วยไอเดียเก๋ ที่คู่บ่าวสาวในปัจจุบันเลือกให้เป็นของชำร่วย เพราะรูปถ่ายช่วยเก็บภาพความทรงจำในวันงานให้คงอยู่ตลอดไป เป็นของชำร่วยที่ถูกใจทั้งผู้ให้และผู้รับ ใต้รูปอาจจะใส่ชื่อคู่บ่าวสาว วันเวลาก็เป็นของชำร่วยที่น่ารักๆมากเลยค่ะ

ภาพจาก Jakawin Photography

 

“ของชำร่วยแต่งงาน” ที่ Box wedding ได้แนะนำไปทั้งหมด ล้วนแล้วแต่เป็นของชำร่วยที่สามารถสื่อความหมาย และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งของชำร่วยแต่งงานที่ดีนั้นไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง ขอเพียงให้เหมาะสมและสามารถสื่อถึงความเป็นตัวตนของคู่บ่าวสาวก็พอ และ Box wedding หวังว่าของชำร่วยที่นำมาฝากกันในวันนี้ จะช่วยเป็นไอเดียในการเลือกของชำร่วยแก่คู่บ่าวสาว ที่จะนำไปต่อยอดในการตัดสินใจเลือกของชำร่วยแต่งงานของทุกคู่กันนะคะ

 

 

เขียนโดย Box wedding

ภาพโดย Jakawin Photography & Box wedding

6 ลำดับขั้นตอน พิธีแต่งงานช่วงเย็น

“ลำดับขั้นตอนพิธีแต่งงานในช่วงเย็น” หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่ามีลำดับขั้นตอนอย่างไรบ้าง ต้องทำอะไรก่อน-หลัง วันนี้  Box Wedding รวบรวมสรุปเอาแต่ละขั้นตอนในพิธีแต่งงานเย็นมาฝากกัน เพื่อให้คู่บ่าวสาวเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเริ่มพิธีการและนำไปประยุกต์ใช้ในงานแต่งงานของตัวเอง จะมีขั้นตอนไหนบ้างนั้นลองไปอ่านกันเลยค่ะ

ทั้งนี้ ลำดับขั้นตอนบนเวทีในช่วงเย็นนั้น โดยมากจะใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที ยกเว้นจะมีกิจกรรมอื่นเพิ่มขึ้น เช่น การแสดง การแจกรางวัล การอวยพร เป็นต้น โดยในการ์ดเชิญจะระบุเวลาเริ่มงานประมาณ 18.30 น. เมื่อแขกเริ่มทยอยมาประมาณ 70% ของที่เชิญ หรือเมื่อถึงเวลาประมาณ 19.30 น. พิธีการบนเวทีก็จะเริ่มต้นขึ้น แต่หากแขกยังมากันน้อยสามารถเลื่อนเวลาออกไปได้ แต่ไม่เกิน 30 นาที โดยมีลำดับขั้นตอน ดังนี้

 

1. พิธีกรกล่าวต้อนรับแขก-เปิดตัวคู่บ่าวสาวและเชิญคู่บ่าวสาวขึ้นเวที

ในช่วงเริ่มต้นพิธีจะมีการเปิดดนตรี พร้อมหรี่แสงไฟภายในงานลงประมาณ 60% และเพิ่มแสงไฟบนเวทีให้สว่างขึ้น เพื่อดึงดูดความสนใจของแขกให้มุ่งตรงไปที่บนเวที โดยพิธีกรในภายในงานจะเริ่มต้นกล่าวต้นรับแขก พร้อมเชิญชมพรีเซนเทชั่นที่บอกเล่าเรื่องราวของคู่บ่าวสาว ซึ่งควรใช้ความยาวไม่เกิน 8 นาที จากนั้นพิธีกรจะเชิญคู่บ่าวสาวขึ้นเวที ซึ่งถือเป็นไฮไลท์สำคัญที่สุดของงานเลยก็ว่าได้ สำหรับการกล่าวเปิดตัวคู่บ่าวสาว โดยระหว่างที่เดินขึ้นเวทีอาจจะมีการเปิดเพลงคลอ รวมทั้งอาจจะเพิ่มลูกเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ตามต้องการ ต่อมาพิธีกรจะสัมภาษณ์คู่บ่าวสาวด้วยข้อมูลเบื้องต้นสั้น ๆ หลังจากนั้นจะเป็นการกล่าวเชิญคุณพ่อและคุณแม่ของฝ่ายเจ้าบ่าวและฝ่ายเจ้าสาวขึ้นมาบนเวที

Cr. ภาพ Jakawin Photography

 

2. เชิญประธานขึ้นคล้องพวงมาลัยและกล่าวอวยพร

เมื่อคู่บ่าวสาวและคุณพ่อ คุณแม่ของทั้งสองฝ่ายยืนอยู่บนเวทีเป็นที่เรียบร้อย พิธีกรจะกล่าวเชิญประธานในพิธี ซึ่งอาจจะมี 2 ท่าน คือ ประธานฝ่ายเจ้าบ่าวและประธานฝ่ายเจ้าสาว เพื่อคล้องพวงมาลัยให้คู่บ่าวสาวบนเวที พร้อมกล่าวคำอวยพรและเป็นผู้นำในการดื่มอวยพรให้คู่บ่าวสาวภายในงาน  จากนั้นพิธีกรจะเรียนเชิญประธานและคุณพ่อคุณแม่ของฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาวลงจากเวที เพื่อดำเนินพิธีในขั้นตอนต่อไป

Cr. ภาพ Jakawin Photography

 

3. สัมภาษณ์คู่บ่าวสาวและกล่าวขอบคุณ

ขั้นตอนนี้พิธีกรจะสัมภาษณ์ด้วยการถามคำถามที่แสดงให้เห็นว่าคู่บ่าวสาวมีความรู้สึกดี ๆ พร้อมบอกเล่าความประทับใจ โดยในกรณีที่มีอะไรเซอร์ไพรส์มอบให้แก่กัน พิธีกรก็จะใช้ช่วงเวลาสุดท้ายในการทำพิธี จากนั้นพิธีกรจะเชิญให้คู่บ่าวสาวกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน

Cr. ภาพ Jakawin Photography

 

4. จุดเทียนและตัดเค้ก และโยนดอกไม้

พิธีการขั้นตอนสุดท้ายบนเวทีจะเป็นการจุดเทียน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มชีวิตคู่ที่สดใสเจริญรุ่งเรือง จากนั้นก็จะเป็นการตัดเค้ก พิธีกรจะเชิญคู่บ่าวสาวร่วมกันจุดเทียนมงคลและตัดเค้กแต่งงาน หลังจากนั้นจะนำเค้กแต่งงานไปมอบให้แก่ท่านประธานในพิธี คุณพ่อ คุณแม่ของทั้งคู่ รวมถึงผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ส่วนแขกอื่น ๆ ทางเจ้าหน้าที่จัดเลี้ยงจะช่วยจัดการนำไปเสิร์ฟให้

 

Cr. ภาพ Jakawin Photography

 

5. พิธีโยนดอกไม้ของเจ้าสาว

ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาสนุกสนานระหว่างคู่บ่าวสาว และกลุ่มเพื่อน ๆ โดยมีความเชื่อว่าเพื่อนเจ้าสาวที่รับดอกไม้ได้จะได้แต่งงานเป็นคู่ต่อไป

Cr. ภาพ Box Wedding

 

6. อาฟเตอร์ปาร์ตี้

อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่งานมักจะจบลงที่กิจกรรมสุดท้ายอย่าง “อาฟเตอร์ปาร์ตี้” ที่คู่บ่าวสาวพร้อมด้วยกลุ่มเพื่อน ๆ จะสังสรรค์เลี้ยงฉลองกันอย่างสนุกสนาน

Cr. ภาพ Jakawin Photography

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับ “6 ลำดับขั้นตอนงานแต่งงานไทยในช่วงเย็น” ถือเป็นลำดับขั้นตอนง่าย ๆ สำหรับคู่บ่าวสาวในการจัดงานแต่งงานใช่ไหมคะ บางขึ้นตอนอาจจะมีการจัดเพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นการใช้ชีวิตคู่ ส่วนบางขั้นตอนก็ยังสามารถตัดออกเพื่อความกระชับในการจัดพิธีอีกด้วย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในการจัดงานแต่งงาน คือการวางแผน ถ้าเราวางแผนแต่เนิ่นๆ พอถึงเวลาที่พิธีเริ่มต้นจริง เราก็จะสามารถดำเนินพิธีได้อย่างราบรื่น และสมบูรณ์ได้อย่างที่เราต้องการ

 

8 ลำดับขั้นตอน งานแต่งงานเช้า

 

ประเพณีการแต่งงานแบบไทย เป็นพิธีการขั้นตอนที่มีรายละเอียดที่งดงาม ด้วยยุคสมัยทำให้พิธีการอาจถูกปรับเปลี่ยนไปบ้าง มีการรวบรัดให้การดำเนินพิธีต่างๆ กระชับมากขึ้น จึงนิยมจัดพิธีหมั้นและพิธีแต่งงานในวันเดียวกัน ในปัจจุบันมีคู่บ่าวสาวน้อยคู่นักที่จะรู้จักหรือศึกษาลำดับพิธี  Box Wedding มาสรุปพิธีการแต่งงานของไทย ให้รวบรัดเพียง 8 ขั้นตอน พร้อมเทคนิคเล็กๆ ที่จะชวนคู่บ่าวสาวสมัยใหม่มาศึกษาข้อมูลด้วยตัวเองเพื่อให้สามารถดำเนินพิธีการแต่งงานในช่วงเช้าให้เป็นไปได้อย่างราบรื่น จะมีขั้นตอนอะไรบ้างนั้น เราไปเริ่มกันเลยค่ะ    

สำหรับพิธีในช่วงเช้าของการแต่งงาน ส่วนใหญ่จะเริ่มตามฤกษ์ยามงามดีของแต่ละคู่ โดยเป็นช่วงของการจัดพิธีทางศาสนาพุทธเพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นจะเป็นพิธีแห่ขันหมาก ซึ่งมักจะเริ่มในเวลา 09.19 น. (หรือตามฤกษ์ยามงามดีของแต่ละคู่) ด้วยความเชื่อที่ว่าเลข 9 เป็นเลขมงคล จะทำให้ชีวิตเจริญก้าวหน้า  โดยมีขั้นตอนของพิธีการแต่งงานในช่วงเช้า ดังนี้ …

Cr. ภาพ Jakawin Photography

1.พิธีสงฆ์

พิธีนี้จัดขึ้นเพื่อสร้างความเป็นสิริมงคล นิยมนิมนต์พระ 9 รูปนะคะ เมื่อพระสงฆ์มาถึงแล้ว คู่บ่าวสาวจะจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พิธีกรนำไหว้อาราธนาศีล5 และรับศีล5 สวดมนต์ และตักบาตร (หากเป็นช่วงสายหน่อย จะถวายสังฆทานแล้วตามด้วยถวายภัตตาหารเพล) โดยจะใช้ทัพพีและขันใส่ข้าวใบเดียวกัน พระสงฆ์อนุโมทนา จากนั้นคู่บ่าวสาวกรวดน้ำ หลังจากนั้นพระสงฆ์จะประพรมน้ำมนต์ให้เพิ่มความเป็นสิริมงคลจึงเป็นอันเสร็จพิธีสงฆ์

 

 

Cr. ภาพ Jakawin Photography

2. ขบวนแห่ขันหมาก

ในปัจจุบันนิยมจัดพิธีหมั้นและพิธีแต่งในวันเดียว ดังนั้น จึงมีการรวบรัดเอา ขันหมากหมั้น และ ขันหมากแต่ง เข้าไว้ด้วยกัน โดยจะที่มีทั้ง ขันหมากเอก และ ขันหมากโท และเมื่อตั้งขบวนขันหมากเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนใหญ่จะมีขบวนกลองยาวนำหน้าเพื่อสร้างความครึกครื้น ตามด้วยขบวนขันหมากเอก-ขันหมากโท โดยขั้นตอนนี้ต้องให้เจ้าสาวเตรียมตัวรอขันหมากบนบ้าน ส่วนเจ้าบ่าวก็จะไปบริเวณที่จัดขบวนขันหมากเตรียมตัวรอฤกษ์เคลื่อนขบวนมาบ้านเจ้าสาว เมื่อเริ่มเคลื่อนขบวน จะมีการโห่ร้องรับกัน 3 ครั้ง และโห่ร้องรับอีก 3 ครั้ง เมื่อมาถึงแล้ว จากนั้นเมื่อมาถึงบ้านเจ้าสาว ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงไปต้อนรับพร้อมกับให้เด็กหญิงถือพานหมากที่จัดเป็นจำนวนคู่ไว้สำหรับไว้ต้อนรับ จากนั้นขบวนขันหมากก็จะเตรียมตัวเข้าไปในบ้าน ซึ่งจะต้องผ่านด่าน ประตูทั้ง 3 คือ ประตูนาก ประตูเงิน และประตูทอง โดยเจ้าบ่าวจะเตรียมซองไว้ เพื่อเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนขอผ่านประตู หลังจากนี้ถือเป็นพิธีการช่วงต่อไป

 

Cr. ภาพ Box Wedding

3.กั้นประตู

เมื่อขบวนขันหมากของฝ่ายเจ้าบ่าวเดินทางมาถึงบ้านของฝ่ายเจ้าสาว ญาติผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาว จะเป็นผู้แทนเจรจากับเถ้าแก่ฝ่ายเจ้าบ่าว (ต้องเป็นผู้สมรสแล้ว ไม่หย่า ไม่เป็นหม้าย)จากนั้นรับพานขันหมาก พานสินสอด แหวนหมั้น วางไว้ ณ จุดประกอบพิธี บรรดาญาติของฝ่ายเจ้าสาวจะมาช่วยกันกั้นประตูเงินประตูทอง เพื่อเรียกค่าเปิดทางจากฝ่ายเจ้าบ่าว ส่วนผู้ที่กั้นประตูจะถือสายสร้อยทอง สายสร้อยเงิน หรือผ้าแพรคนละด้าน เพื่อกั้นไม่ให้ขบวนผ่านไปได้ ซึ่งถ้าอิงประเพณีหลักดั้งเดิมก็จะมีประตูหลัก ๆ 3 ประตู คือ ประตูนาก ประตูเงิน ประตูทอง (จะเรียกประตูชัย ประตูเงิน และประตูทองก็ได้เช่นกัน) โดยฝ่ายชายจะต้องเจรจาขอผ่านทาง และต้องให้ซองใส่เงิน ให้แก่ผู้กั้นประตู หลังจากผ่านประตูทุกด่านเรียบร้อยแล้ว จะมีเด็กหญิงญาติของฝ่ายหญิงเตรียมล้างเท้าให้กับเจ้าบ่าว จากนั้นฝ่ายหญิงจะจัดเด็กผู้หญิงถือพานหมากพลูไว้รอเชิญขบวนขันหมากขึ้นเรือน ซึ่งเจ้าบ่าวต้องเตรียมซองเงินไว้เป็นรางวัลด้วยเช่นกัน

 

Cr. ภาพ Box Wedding

4.มอบสินสอด

เมื่อฝ่ายเจ้าสาวรับขบวนขันหมากเสร็จเรียบร้อยแล้ว พิธีการต่อไปก็คือการนำของจากขบวนขันหมากมาจัดวางเรียงกัน จากนั้นเฒ่าแก่ฝ่ายชายจะเริ่มการเจรจาสู่ขอ เมื่อตกลงยินยอมยกลูกสาวให้ ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวจะนำพานสินสอดออกมาเปิด เพื่อเข้าสู่พิธีนับสินสอด และจัดวางอยู่บนผ้าแดงหรือผ้าเงินผ้าทอง (อย่าลืมเตรียมผ้าสีมงคลสำหรับรวบห่อสินสอด ต้องเป็นผืนใหญ่เพื่อให้แม่เจ้าสาวแบกขึ้นบ่าได้ และตอนแบกขึ้นอย่าลืมพูดเอาเคล็ดว่าห่อนี้หนัก คงมีเงินทองมากมาย เคล็ดลับเพื่อให้คู่บ่าวสาวมีเงินงอกเงย ให้ใส่สินสอดเกินจำนวนไว้เล็กน้อย แล้วทำทีเป็นตรวจนับตามธรรมเนียม เพื่อเป็นเคล็ดว่าคู่บ่าวสาวอยู่ด้วยต่อไปเรื่อย ๆ จะมีเงินงอกเงย) ทั้งนี้ หลังจากนับสินสอดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจะช่วยกันโปรยถั่ว งา ข้าวเปลือก ข้าวตอก ดอกไม้ ใบเงิน ใบทอง ที่บรรจุมาในพานขันหมากเอกลงบนสินสอด ต่อมาแม่ของเจ้าสาวจะห่อสินสอดด้วยผ้า แล้วแบกขึ้นไว้บนบ่าตามประเพณี

 

Cr. ภาพ Jakawin Photography

5.สวมแหวน

หลังจากที่ได้นับสินสอดกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อถึงเวลาฤกษ์อันเป็นมงคลตามที่กำหนด ฝ่ายเจ้าบ่าวจะทำการสวมแหวนหมั้นให้ฝ่ายเจ้าสาว จากนั้นฝ่ายหญิงไหว้พร้อมกับสวมแหวนแลกกับฝ่ายชาย เมื่อสวมแหวนเสร็จมักจะมีการถ่ายรูปกันเป็นที่ระลึก และรอเวลาที่จะประกอบพิธีสำคัญต่อไป

 

Cr. ภาพ Jakawin Photography

6. หลั่งน้ำพระพุทธมนต์

สำหรับการทำพิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์และประสาทพร เริ่มจากบ่าวสาวจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จากนั้นไปนั่งที่ตั่งเพื่อทำพิธีรดน้ำสังข์ ซึ่งเจ้าสาวต้องนั่งด้ายซ้ายของเจ้าบ่าวเสมอ ประธานในพิธีคล้องพวงมาลัย สวมมงคลแฝดบนศีรษะของบ่าวสาว พร้อมกับเจิมที่หน้าผากมงคลแฝด และแป้งเจิมที่นำมาใช้นั้นเป็นของที่ได้ผ่านพิธีมงคลมาเรียบร้อย จากนั้น ประธานหลั่งน้ำอวยพรให้บ่าวสาว ตามด้วยพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ ผู้ร่วมงานที่เป็นผู้ใหญ่ และเชิญแขกอื่นๆ เข้ารดน้ำตามลำดับความอาวุโส และก่อนจะลุกจากที่นั่งมีความเชื่อนิดนึงว่าหากบ่าวสาวฝ่ายใดลุกยืนก่อน ฝ่ายนั้นจะได้เป็นผู้อยู่เหนืออีกคนค่ะ ดังนั้นผู้ใหญ่จึงบอกให้ช่วยประคองกันลุกขึ้นแทนนะคะ

 

Cr. ภาพ Box Wedding

7. พิธีไหว้ผู้ใหญ่

พิธีรับไหว้ หรือ พิธีไหว้ผู้ใหญ่นั้นเริ่มจาก คู่บ่าวสาวยกพานธูปเทียนแพ และผ้าไหว้ คลานไปกราบบิดามารดาก่อน ถือเป็นการฝากเนื้อฝากตัว ซึ่งผู้ใหญ่จะรับ ผ้ารับไหว้ นั้นไว้ แล้วผู้ใหญ่จะทำการรับไหว้ ด้วยซอง สิ่งของมีค่า เงินทุน สร้อยคอทองคำ พร้อมทั้งให้ศีลให้พร จากนั้นจึงนำเงินรับไหว้ หรือของมีค่าใส่ลงพานไหว้ ผู้ใหญ่จะผูกข้อไม้ข้อมือด้วยสายสิญจน์เพื่อเป็นการรับขวัญคู่บ่าวสาว จากนั้นคู่บ่าวสาว จึงยก ของรับไหว้ ที่เตรียมไว้ ไหว้ผู้ใหญ่ท่านอื่นๆ เรียงตามลำดับอาวุโส เมื่อผู้ใหญ่รับไหว้แล้ว ก็จะมีการนำเงิน ทอง ของมีค่าใส่ในพานให้ หากญาติๆ จะช่วยเพิ่มทุนก็สามารถทำได้ การกราบผู้ใหญ่ หากเป็นพ่อแม่ หรือญาติผู้ใหญ่อาวุโสเช่น ปู่ ย่า ตา ยาย กราบ 3 ครั้ง ส่วนญาติอื่นๆ กราบ 1 ครั้ง ไม่ต้องแบมือ

Cr. ภาพ Jakawin Photography

8. สุดท้ายนี้คือพิธีส่งตัวเข้าเรือนหอ หรือ พิธีร่วมเรียงเคียงหมอนหรือพิธีปูที่นอน

ถือเป็นพิธีสำคัญในช่วงสุดท้าย (สำหรับคู่ที่มีฤกษ์ยามในช่วงเช้า หรือคู่ที่ถือฤกษ์สะดวกอยากทำพิธีให้เสร็จสิ้นในช่วงเวลาเดียวกัน) โดยผู้ใหญ่จะนำเจ้าสาวมาส่งตัวเข้าหอ ซึ่งเจ้าบ่าวจะมารออยู่ที่ห้องหอก่อนแล้ว ส่วนสำคัญของพิธีนี้จะอยู่ที่คู่ผู้ใหญ่ที่จะมาทำพิธีปูที่นอน ก่อนที่จะพาเจ้าบ่าวเข้ามาในห้องหอแล้วเจิมหน้าผาก และนำตัวเจ้าสาวเข้ามา โดยที่เจ้าสาวจะต้องกราบพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ของตัวเองเพื่อเป็นการขอพร และเมื่อเจ้าสาวเข้ามาในห้องแล้ว แม่เจ้าสาวต้องเป็นคนพามามอบให้กับเจ้าบ่าว พร้อมพูดจาฝากฝังให้ช่วยดูแลลูกสาวด้วย จากนั้นจะกล่าวให้โอวาทเกี่ยวกับการใช้ชีวิตคู่ ในขั้นตอนนี้ธรรมเนียมบางท้องถิ่นจะให้พ่อแม่เจ้าสาวเป็นผู้กล่าวก็สามารถทำได้เช่นกัน

ส่วนพิธีร่วมเรียงเคียงหมอน หรือพิธีปูที่นอนนั้น จะเริ่มจากการจัดปูที่นอนในห้องหอ โดยพ่อแม่จะเชิญผู้ใหญ่คู่สามีภรรยาที่มีครอบครัวอบอุ่นสมบูรณ์ ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกัน เป็นที่นับหน้าถือตาในสังคมมาช่วยปูที่นอนให้ เพื่อถือเคล็ดให้คู่บ่าวสาวจะได้มีชีวิตคู่ที่ดี โดยที่ผู้ใหญ่ที่ทำพิธีปูที่นอนนี้จะต้องอาบน้ำให้สะอาด แต่งตัวเรียบร้อย แล้วจึงเข้ามาในห้องหอ เพื่อจัดเรียงหมอน 2 ใบ แล้วปัดที่นอนพอเป็นพิธี จากนั้นจัดวางข้าวของประกอบพิธีลงบนที่นอน ได้แก่ หินบดยาหรือหินก้อนเส้า, ฟักเขียว, แมวคราว (แมวตัวผู้ที่อายุมากแล้ว), พานใส่ถุงข้าวเปลือก งา ถั่วทองหรือถั่วเขียว และขันใส่น้ำฝนมาประกอบพิธีอีกด้วย ส่วนการนอนผู้ชายต้องนอนทางขวาและผู้หญิงต้องนอนทางซ้าย เพราะถือว่าสามีเป็นผู้ให้ความดูแลคุ้มครอง โดยสาเหตุที่เจ้าบ่าวนอนด้านขวาเพราะส่วนใหญ่แล้วห้องนอนของแต่ละบ้านในสมัยก่อนประตูจะอยู่ด้านขวามือ หากมีเหตุอันตรายสามีจะสามารถคุ้มครองปกป้องภรรยาของตนได้ เพราะถือว่าผู้ชายมีความแข็งแรงกว่าหญิง ควรทำหน้าที่ดูแลปกป้องนั่นเอง เท่านี้ก็เป็นอันประกอบพิธีแต่งงานช่วงเช้าเสร็จสิ้น

 

การแต่งงานแบบไทยนั้น เป็นงานพิธีที่เป็นมงคลสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน อาจจะมีแตกต่างกันบ้างตามแต่ละท้องถิ่น เป็นประเพณีที่ถือปฏิบัติต่อกันมาจนทุกวันนี้ ในสมัยนี้พิธีการแต่งงาน ได้ถูกตัดทอนย่อลงมาก เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน แต่ยังคงรักษาพิธีการแต่งงานตามธรรมเนียมไทยสืบต่อกันมา เป็นอย่างไรบ้างคะเพื่อนๆ หลังจากที่ได้อ่าน  8 ขั้นตอนในพิธีงานแต่งงานช่วงเช้าไปแล้วไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะคะสำหรับการจัดงานแต่งงานในช่วงเช้า ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดของงานแต่งงาน คือ การวางแผน ยิ่งมีเวลาวางแผนไว้ก่อนล่วงหน้ามากเท่าไหร่ ก็จะช่วยให้มีเวลาในการเตรียมตัวมากขึ้น พอถึงวันพิธีก็จะช่วยให้แต่ละขั้นตอนผ่านลุล่วงไปได้เป็นอย่างดี 

 

6 ลำดับขั้นตอน งานแต่งงานเย็น

“ลำดับขั้นตอนพิธีแต่งงานในช่วงเย็น” หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่ามีลำดับขั้นตอนอย่างไรบ้าง ต้องทำอะไรก่อน-หลัง วันนี้  Box Wedding รวบรวมสรุปเอาแต่ละขั้นตอนในพิธีแต่งงานเย็นมาฝากกัน เพื่อให้คู่บ่าวสาวเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเริ่มพิธีการและนำไปประยุกต์ใช้ในงานแต่งงานของตัวเอง จะมีขั้นตอนไหนบ้างนั้นลองไปอ่านกันเลยค่ะ

ทั้งนี้ ลำดับขั้นตอนบนเวทีในช่วงเย็นนั้น โดยมากจะใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที ยกเว้นจะมีกิจกรรมอื่นเพิ่มขึ้น เช่น การแสดง การแจกรางวัล การอวยพร เป็นต้น โดยในการ์ดเชิญจะระบุเวลาเริ่มงานประมาณ 18.30 น. เมื่อแขกเริ่มทยอยมาประมาณ 70% ของที่เชิญ หรือเมื่อถึงเวลาประมาณ 19.30 น. พิธีการบนเวทีก็จะเริ่มต้นขึ้น แต่หากแขกยังมากันน้อยสามารถเลื่อนเวลาออกไปได้ แต่ไม่เกิน 30 นาที โดยมีลำดับขั้นตอน ดังนี้

 

1. พิธีกรกล่าวต้อนรับแขก-เปิดตัวคู่บ่าวสาวและเชิญคู่บ่าวสาวขึ้นเวที

ในช่วงเริ่มต้นพิธีจะมีการเปิดดนตรี พร้อมหรี่แสงไฟภายในงานลงประมาณ 60% และเพิ่มแสงไฟบนเวทีให้สว่างขึ้น เพื่อดึงดูดความสนใจของแขกให้มุ่งตรงไปที่บนเวที โดยพิธีกรในภายในงานจะเริ่มต้นกล่าวต้นรับแขก พร้อมเชิญชมพรีเซนเทชั่นที่บอกเล่าเรื่องราวของคู่บ่าวสาว ซึ่งควรใช้ความยาวไม่เกิน 8 นาที จากนั้นพิธีกรจะเชิญคู่บ่าวสาวขึ้นเวที ซึ่งถือเป็นไฮไลท์สำคัญที่สุดของงานเลยก็ว่าได้ สำหรับการกล่าวเปิดตัวคู่บ่าวสาว โดยระหว่างที่เดินขึ้นเวทีอาจจะมีการเปิดเพลงคลอ รวมทั้งอาจจะเพิ่มลูกเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ตามต้องการ ต่อมาพิธีกรจะสัมภาษณ์คู่บ่าวสาวด้วยข้อมูลเบื้องต้นสั้น ๆ หลังจากนั้นจะเป็นการกล่าวเชิญคุณพ่อและคุณแม่ของฝ่ายเจ้าบ่าวและฝ่ายเจ้าสาวขึ้นมาบนเวที

Cr. ภาพ Jakawin Photography

 

2. เชิญประธานขึ้นคล้องพวงมาลัยและกล่าวอวยพร

เมื่อคู่บ่าวสาวและคุณพ่อ คุณแม่ของทั้งสองฝ่ายยืนอยู่บนเวทีเป็นที่เรียบร้อย พิธีกรจะกล่าวเชิญประธานในพิธี ซึ่งอาจจะมี 2 ท่าน คือ ประธานฝ่ายเจ้าบ่าวและประธานฝ่ายเจ้าสาว เพื่อคล้องพวงมาลัยให้คู่บ่าวสาวบนเวที พร้อมกล่าวคำอวยพรและเป็นผู้นำในการดื่มอวยพรให้คู่บ่าวสาวภายในงาน  จากนั้นพิธีกรจะเรียนเชิญประธานและคุณพ่อคุณแม่ของฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาวลงจากเวที เพื่อดำเนินพิธีในขั้นตอนต่อไป

Cr. ภาพ Jakawin Photography

 

3. สัมภาษณ์คู่บ่าวสาวและกล่าวขอบคุณ

ขั้นตอนนี้พิธีกรจะสัมภาษณ์ด้วยการถามคำถามที่แสดงให้เห็นว่าคู่บ่าวสาวมีความรู้สึกดี ๆ พร้อมบอกเล่าความประทับใจ โดยในกรณีที่มีอะไรเซอร์ไพรส์มอบให้แก่กัน พิธีกรก็จะใช้ช่วงเวลาสุดท้ายในการทำพิธี จากนั้นพิธีกรจะเชิญให้คู่บ่าวสาวกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน

Cr. ภาพ Jakawin Photography

 

4. จุดเทียนและตัดเค้ก และโยนดอกไม้

พิธีการขั้นตอนสุดท้ายบนเวทีจะเป็นการจุดเทียน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มชีวิตคู่ที่สดใสเจริญรุ่งเรือง จากนั้นก็จะเป็นการตัดเค้ก พิธีกรจะเชิญคู่บ่าวสาวร่วมกันจุดเทียนมงคลและตัดเค้กแต่งงาน หลังจากนั้นจะนำเค้กแต่งงานไปมอบให้แก่ท่านประธานในพิธี คุณพ่อ คุณแม่ของทั้งคู่ รวมถึงผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ส่วนแขกอื่น ๆ ทางเจ้าหน้าที่จัดเลี้ยงจะช่วยจัดการนำไปเสิร์ฟให้

 

Cr. ภาพ Jakawin Photography

 

5. พิธีโยนดอกไม้ของเจ้าสาว

ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาสนุกสนานระหว่างคู่บ่าวสาว และกลุ่มเพื่อน ๆ โดยมีความเชื่อว่าเพื่อนเจ้าสาวที่รับดอกไม้ได้จะได้แต่งงานเป็นคู่ต่อไป

Cr. ภาพ Box Wedding

 

6. อาฟเตอร์ปาร์ตี้

อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่งานมักจะจบลงที่กิจกรรมสุดท้ายอย่าง “อาฟเตอร์ปาร์ตี้” ที่คู่บ่าวสาวพร้อมด้วยกลุ่มเพื่อน ๆ จะสังสรรค์เลี้ยงฉลองกันอย่างสนุกสนาน

Cr. ภาพ Jakawin Photography

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับ “6 ลำดับขั้นตอนงานแต่งงานไทยในช่วงเย็น” ถือเป็นลำดับขั้นตอนง่าย ๆ สำหรับคู่บ่าวสาวในการจัดงานแต่งงานใช่ไหมคะ บางขึ้นตอนอาจจะมีการจัดเพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นการใช้ชีวิตคู่ ส่วนบางขั้นตอนก็ยังสามารถตัดออกเพื่อความกระชับในการจัดพิธีอีกด้วย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในการจัดงานแต่งงาน คือการวางแผน ถ้าเราวางแผนแต่เนิ่นๆ พอถึงเวลาที่พิธีเริ่มต้นจริง เราก็จะสามารถดำเนินพิธีได้อย่างราบรื่น และสมบูรณ์ได้อย่างที่เราต้องการ

 

6 ลำดับขั้นตอน พิธีแต่งงานไทยในช่วงเย็น

“ลำดับขั้นตอนพิธีแต่งงานในช่วงเย็น” หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่ามีลำดับขั้นตอนอย่างไรบ้าง ต้องทำอะไรก่อน-หลัง วันนี้  Box Wedding รวบรวมสรุปเอาแต่ละขั้นตอนในพิธีแต่งงานเย็นมาฝากกัน เพื่อให้คู่บ่าวสาวเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเริ่มพิธีการและนำไปประยุกต์ใช้ในงานแต่งงานของตัวเอง จะมีขั้นตอนไหนบ้างนั้นลองไปอ่านกันเลยค่ะ

ทั้งนี้ ลำดับขั้นตอนบนเวทีในช่วงเย็นนั้น โดยมากจะใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที ยกเว้นจะมีกิจกรรมอื่นเพิ่มขึ้น เช่น การแสดง การแจกรางวัล การอวยพร เป็นต้น โดยในการ์ดเชิญจะระบุเวลาเริ่มงานประมาณ 18.30 น. เมื่อแขกเริ่มทยอยมาประมาณ 70% ของที่เชิญ หรือเมื่อถึงเวลาประมาณ 19.30 น. พิธีการบนเวทีก็จะเริ่มต้นขึ้น แต่หากแขกยังมากันน้อยสามารถเลื่อนเวลาออกไปได้ แต่ไม่เกิน 30 นาที โดยมีลำดับขั้นตอน ดังนี้

 

1. พิธีกรกล่าวต้อนรับแขก-เปิดตัวคู่บ่าวสาวและเชิญคู่บ่าวสาวขึ้นเวที

ในช่วงเริ่มต้นพิธีจะมีการเปิดดนตรี พร้อมหรี่แสงไฟภายในงานลงประมาณ 60% และเพิ่มแสงไฟบนเวทีให้สว่างขึ้น เพื่อดึงดูดความสนใจของแขกให้มุ่งตรงไปที่บนเวที โดยพิธีกรในภายในงานจะเริ่มต้นกล่าวต้นรับแขก พร้อมเชิญชมพรีเซนเทชั่นที่บอกเล่าเรื่องราวของคู่บ่าวสาว ซึ่งควรใช้ความยาวไม่เกิน 8 นาที จากนั้นพิธีกรจะเชิญคู่บ่าวสาวขึ้นเวที ซึ่งถือเป็นไฮไลท์สำคัญที่สุดของงานเลยก็ว่าได้ สำหรับการกล่าวเปิดตัวคู่บ่าวสาว โดยระหว่างที่เดินขึ้นเวทีอาจจะมีการเปิดเพลงคลอ รวมทั้งอาจจะเพิ่มลูกเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ตามต้องการ ต่อมาพิธีกรจะสัมภาษณ์คู่บ่าวสาวด้วยข้อมูลเบื้องต้นสั้น ๆ หลังจากนั้นจะเป็นการกล่าวเชิญคุณพ่อและคุณแม่ของฝ่ายเจ้าบ่าวและฝ่ายเจ้าสาวขึ้นมาบนเวที

Cr. ภาพ Jakawin Photography

 

2. เชิญประธานขึ้นคล้องพวงมาลัยและกล่าวอวยพร

เมื่อคู่บ่าวสาวและคุณพ่อ คุณแม่ของทั้งสองฝ่ายยืนอยู่บนเวทีเป็นที่เรียบร้อย พิธีกรจะกล่าวเชิญประธานในพิธี ซึ่งอาจจะมี 2 ท่าน คือ ประธานฝ่ายเจ้าบ่าวและประธานฝ่ายเจ้าสาว เพื่อคล้องพวงมาลัยให้คู่บ่าวสาวบนเวที พร้อมกล่าวคำอวยพรและเป็นผู้นำในการดื่มอวยพรให้คู่บ่าวสาวภายในงาน  จากนั้นพิธีกรจะเรียนเชิญประธานและคุณพ่อคุณแม่ของฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาวลงจากเวที เพื่อดำเนินพิธีในขั้นตอนต่อไป

Cr. ภาพ Jakawin Photography

 

3. สัมภาษณ์คู่บ่าวสาวและกล่าวขอบคุณ

ขั้นตอนนี้พิธีกรจะสัมภาษณ์ด้วยการถามคำถามที่แสดงให้เห็นว่าคู่บ่าวสาวมีความรู้สึกดี ๆ พร้อมบอกเล่าความประทับใจ โดยในกรณีที่มีอะไรเซอร์ไพรส์มอบให้แก่กัน พิธีกรก็จะใช้ช่วงเวลาสุดท้ายในการทำพิธี จากนั้นพิธีกรจะเชิญให้คู่บ่าวสาวกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน

Cr. ภาพ Jakawin Photography

 

4. จุดเทียนและตัดเค้ก และโยนดอกไม้

พิธีการขั้นตอนสุดท้ายบนเวทีจะเป็นการจุดเทียน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มชีวิตคู่ที่สดใสเจริญรุ่งเรือง จากนั้นก็จะเป็นการตัดเค้ก พิธีกรจะเชิญคู่บ่าวสาวร่วมกันจุดเทียนมงคลและตัดเค้กแต่งงาน หลังจากนั้นจะนำเค้กแต่งงานไปมอบให้แก่ท่านประธานในพิธี คุณพ่อ คุณแม่ของทั้งคู่ รวมถึงผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ส่วนแขกอื่น ๆ ทางเจ้าหน้าที่จัดเลี้ยงจะช่วยจัดการนำไปเสิร์ฟให้

 

Cr. ภาพ Jakawin Photography

 

5. พิธีโยนดอกไม้ของเจ้าสาว

ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาสนุกสนานระหว่างคู่บ่าวสาว และกลุ่มเพื่อน ๆ โดยมีความเชื่อว่าเพื่อนเจ้าสาวที่รับดอกไม้ได้จะได้แต่งงานเป็นคู่ต่อไป

Cr. ภาพ Box Wedding

 

6. อาฟเตอร์ปาร์ตี้

อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่งานมักจะจบลงที่กิจกรรมสุดท้ายอย่าง “อาฟเตอร์ปาร์ตี้” ที่คู่บ่าวสาวพร้อมด้วยกลุ่มเพื่อน ๆ จะสังสรรค์เลี้ยงฉลองกันอย่างสนุกสนาน

Cr. ภาพ Jakawin Photography

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับ “6 ลำดับขั้นตอนงานแต่งงานไทยในช่วงเย็น” ถือเป็นลำดับขั้นตอนง่าย ๆ สำหรับคู่บ่าวสาวในการจัดงานแต่งงานใช่ไหมคะ บางขึ้นตอนอาจจะมีการจัดเพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นการใช้ชีวิตคู่ ส่วนบางขั้นตอนก็ยังสามารถตัดออกเพื่อความกระชับในการจัดพิธีอีกด้วย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในการจัดงานแต่งงาน คือการวางแผน ถ้าเราวางแผนแต่เนิ่นๆ พอถึงเวลาที่พิธีเริ่มต้นจริง เราก็จะสามารถดำเนินพิธีได้อย่างราบรื่น และสมบูรณ์ได้อย่างที่เราต้องการ

 

11 ไอเดียของชำร่วยงานแต่งงาน

ในการจัดงานแต่งงาน สิ่งหนึ่งที่คู่บ่าวสาวทุกคู่จะต้องคิดและคำนึงถึง คือ การเลือก “ของชำร่วยงานแต่งงาน” ที่จะมอบเป็นที่ระลึกให้แก่แขกที่มาร่วมงาน หลายๆคนอาจคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่เชื่อไหมคะ ร้อยทั้งร้อย พอเอาเข้าจริงๆ กลับคิดไม่ออกว่าจะให้ของชำร่วยอะไรดี เพราะอันนั้นก็ดีอันนี่ก็ใช่ อีกอันก็ชอบ ไหนๆก็เป็นของชำร่วยงานแต่งงานของตัวเองแล้ว แน่นอนว่า คู่บ่าวสาวคงไม่อยากให้แขกที่ได้รับเชิญมาในงาน เมื่อกลับถึงบ้านก็ทิ้งขว้างของชำรวยที่เราอุตส่าห์เลือกสรรมาอย่างดีใช่ไหมคะ วันนี้ Box wedding หยิบเอาภาพของชำร่วยงานแต่งงาน น่ารักๆในแบบต่างๆ ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง มาให้ไว้เป็นไอเดีย เผื่อคู่บ่าวที่กำลังมองหาของชำร่วยงานแต่งงาน และยังไม่รู้ว่าจะเลือกอะไรดี จะมีของชำร่วยอะไรน่ารักบ้าง เราลองไปดูกันเลย…

 

  •  กระเป๋าสตางค์ใบเล็ก เป็นของชำร่วยที่ผู้รับสามารถนำเอามาใช้ได้จริง ประดับตัวอักษรชื่อขึ้นต้นของคู่บ่าวสาว ขนาดเล็กน่ารักกำลังดี แนะนำให้เลือกสีกระเป๋าที่สามารถใช้ได้ทั้งผู้ชายผู้หญิง ถ้าเป็นคุณผู้ชายได้รับอาจจะเอาไว้ใส่กุญแจรถ เศษเหรียญ หรือถ้าเป็นคุณผู้หญิงก็เอาไว้ใส่เหรียญน่ารักๆ หรือใส่ลิปสติกได้คะ

ภาพจาก Jakawin Photography & Box Wedding

  •  ขวดโหลหรือขวดแก้วอเนกประสงค์ ภายในอาจจะบรรจุลูกอม ขนม แยม นำผึ้ง ขนาดเล็กน่ารักๆ ผูกด้วยเชือก ริบบิ้น สีต่างๆ อาจจะเป็นสีชมพู สีเขียวมิ้น ก็หวานน่ารักมุ้งมิ้ง พร้อมติกสติกเกอร์ชื่อคู่บ่าวสาว และวันที่งานแต่ง ก็เก๋ น่ารักไปอีกแบบนะคะ

ภาพจาก Jakawin Photography& Box Wedding

 

  • ขวดเซียมซี ของชำร่วยงานแต่ง ไอเดียเก๋ๆอีกรูปแบบหนึ่ง มีคำทำนายแปะอยู่ด้านหน้า นอกจากเป็นของชำร่วยแล้ว ผู้ได้รับอาจนำไปเล่นกับเพื่อน หรือใช้เป็นของประดับตกแต่งบ้านได้อีกด้วย

ภาพจาก Jakawin Photography

 

  • ลิปสติก ของชำร่วยแต่งงานที่เหมาะกับผู้หญิงเป็นอย่างมาก แต่สำหรับคุณผู้ชายอาจจะเอาไปให้แฟนสาวใช้แทน ถือเป็นของชำร่วยอีกรูปแบบหนึ่งที่สามารถนำไปใช้ได้จริง และสาวๆหลายคนต้องชอบมากๆแน่นอนค่ะ

ภาพจาก Jakawin Photography

 

  • สบู่ก้อนน่ารักๆ มีกลิ่นหอม มีสันสวยงาม แปะด้วยชื่อของคู่บ่าวสาว ก็สามารถเป็นของชำร่วยแต่งงานที่ทรงคุณค่า น่ารัก และสามารถนำมาใช้จริงได้อีกด้วย

ภาพจาก Jakawin Photography

 

  • วัตถุมงคล ของชำร่วยที่มีคุณค่าทางจิตใจและทางวัตถุ สามารถเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้ บรรจุอย่างดีอยู่ในกล่องหนังกำมะหยี่ หรืออยู่ในกรอบกระจก เขียนชื่อคู่บ่าวสาว วันเวลาที่แต่งงานระบุไว้ ก็สวยหรูดูดี มีคุณค่าไปอีกแบบนะคะ

ภาพจาก Box Wedding

 

  • สมุดโน้ต หน้าปกอาจจะเป็นรูปวาดคู่บ่าวสาว พร้อมเขียนชื่อคู่บ่าวสาว วันเวลาที่แต่งงาน ติดริบบิ้นน่ารักๆ เป็นอีกหนึ่งของชำร่วยที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อีกด้วย

ภาพจาก Jakawin Photography

 

  • เข็มกลัด ของชำร่วยที่สามารนำมาใช้ได้จริง เป็นเครื่องประดับ มิกซ์และแมทซ์ได้กับทุกชุด ใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เป็นของชำร่วยอีกอย่างหนึ่งที่มีประโยชน์ และมีคุณค่านะคะ

ภาพจาก Jakawin Photography

 

  • พัด ของชำร่วยแต่งงานที่สามารถใช้ได้จริง เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย ขนาดน่ารัก กำลังดี สกรีนชื่อคู่บ่าวสาว วันที่แต่งงาน เป็นของชำร่วยที่น่ารักแบบไทยๆดีนะคะ

ภาพจาก Jakawin Photography

 

  • พวงกุญแจ ของชำร่วยที่เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง มีหลายดีไซน์ น่ารัก หวานๆ เท่ห์ หลากหลายสีสัน หลากหลายสไตล์ เหมาะกับการใช้เป็นของชำร่วยงานแต่งงาน

ภาพจาก Jakawin Photography

 

  • ปฏิทิน ของชำร่วยที่สามารถใช้งานได้จริง ใช้ได้นาน และมีประโยชน์สำหรับทุกเพศทุกวัย เลือกสีหวานๆ น่ารักๆ อาจจะติดริบบิ้นประดับ หรือใช้กระดาษสวยๆ เขียนชื่อคู่บ่าวสาว ก็เป็นของชำร่วยอีกแบบหนึ่งที่น่ารัก และมีประโยชน์มากๆนะคะ

ภาพจาก Jakawin Photography

 

  • รูปถ่าย อีกหนึ่งของชำร่วยไอเดียเก๋ ที่คู่บ่าวสาวในปัจจุบันเลือกให้เป็นของชำร่วย เพราะรูปถ่ายช่วยเก็บภาพความทรงจำในวันงานให้คงอยู่ตลอดไป เป็นของชำร่วยที่ถูกใจทั้งผู้ให้และผู้รับ ใต้รูปอาจจะใส่ชื่อคู่บ่าวสาว วันเวลาก็เป็นของชำร่วยที่น่ารักๆมากเลยค่ะ

ภาพจาก Jakawin Photography

 

“ของชำร่วยแต่งงาน” ที่ Box wedding ได้แนะนำไปทั้งหมด ล้วนแล้วแต่เป็นของชำร่วยที่สามารถสื่อความหมาย และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งของชำร่วยแต่งงานที่ดีนั้นไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง ขอเพียงให้เหมาะสมและสามารถสื่อถึงความเป็นตัวตนของคู่บ่าวสาวก็พอ และ Box wedding หวังว่าของชำร่วยที่นำมาฝากกันในวันนี้ จะช่วยเป็นไอเดียในการเลือกของชำร่วยแก่คู่บ่าวสาว ที่จะนำไปต่อยอดในการตัดสินใจเลือกของชำร่วยแต่งงานของทุกคู่กันนะคะ

10 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ขอพรความรัก

คนโสด ก็อยากเจอจะเนื้อคู่ คนมีคู่ก็อยากจะครองรักกับคนรักไปนานๆ เพราะไม่ว่าใครก็อยากจะเจอความรักที่ดี มีความสุข สมหวังกันทั้งนั้นใช่ไหมคะ วันนี้ Box Wedding จึงขอนำเสนอ “10 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ขอพรความรัก” ที่ใครต่อใครต่างการันตีว่า ถ้าได้ไปกราบสักการะแล้วจะสมหวังในเรื่องความรักดั่งใจหมายอย่างแน่นอน หนุ่มสาวคนไหนที่กำลังอยากเจอเนื้อคู่ ต้องลองไปกราบสักการะกันดูนะคะ ส่วนใครที่กำลังอินเลิฟกันอยู่ก็เดินทางไปขอพรให้รักนิรันดร์ได้เช่นกันค่ะ จะมีสถานที่ไหนบ้างนั้น อย่ามัวรอช้า ไปอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ…

 

1. สถานที่ไหว้พระขอความรัก ศาลพระตรีมูรติ (ลาน Central World)
                                 ภาพจาก http://www.thaiday.com/Daily/ViewNews

สถานที่ไหว้ขอพรด้านความรัก อันดับหนึ่งเห็นจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้ นอกจาก “ศาลพระตรีมูรติ” เทพเจ้าแห่งความรัก  แห่งแยกราชประสงค์บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้า  Central World  ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของการขอความรัก

สถานที่ตั้ง ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ สี่แยกราชประสงค์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

เวลาที่ควรมาสักการะ ปกติสามารถขอพรได้ทุกวัน หากแต่ฤกษ์ที่ดีที่สุดในการขอพรคือ วันพฤหัสบัดี เวลา 9.30 น. และ  21.30 น. เพราะเชื่อกันว่าเวลานี้เป็นเวลาที่เหล่าทวยเทพจะลงมายังโลกมนุษย์เพื่อรับคำและประทานพรให้แก่ผู้ที่มาขอพร และจะศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก

สิ่งที่ควรนำมาถวาย  เครื่องสักการะควรเน้นสีแดง เช่น ดอกกุหลาบสีแดง 9 ดอก, ธูปแดง 9 ดอก, เทียนคู่สีแดง และมีเทคนิคคือจะต้องวางติดกันเพื่อถือเคล็ดให้ได้เจอคู่ครองสมใจ  หากใครมีคนรักอยู่แล้วเมื่อมาขอพรพระตรีมูรติก็จะทำให้รักกันมากขึ้น  หากสิ่งอธิษฐานได้สมหวังดั่งใจจะต้องหานำของมาถวาย เช่น มะพร้าว, น้ำอ้อย, นมสด หรือของหวานอื่นๆ แล้วแต่ศรัธา (ที่สำคัญห้ามถวายอาหารคาวนะคะห้ามถวายของคาวทุกชนิด)

การเดินทาง สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีชิดลม ใช้ทางออกที่ 9 ซึ่งจะมีทางเชื่อมโดยตรงสู่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ จากนั้นให้เดินไปบริเวณหน้าห้างอิเซตัน

2. สถานที่ไหว้พระขอความรัก พระแม่อุมาเทวี  (วัดแขก สีลม)
                                        ภาพจาก http://www.hindumeeting.com/forum
หากอยากมีความรักที่สมหวังและจริงจัง มั่นคงขึ้นมาอีกระดับ เราแนะนำให้มาที่ “วัดแขก” หรือ “วัดพระศรีมหาอุมาเทวี” ย่านสีลม เพื่อสัการะบูชาพระแม่อุมาเทวี  เนื่องด้วยพระแม่อุมาเทวีนั้น ขึ้นชื่อในเรื่องศรัทธาและรักมั่นคงต่อองค์พระศิวะ

วัดแขกเป็นวัดเก่าแก่อายุมากกว่า 100 ปี มีสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น เป็นศิลปะแบบอินเดียตอนใต้ ผสมผสานกันระหว่างสมัยโชละและปาลวะ อีกทั้งยังเป็นที่ประดิษฐานของพระศรีมหาอุมาเทวี หรือพระแม่อุมา ซึ่งเป็นพระมเหสีของพระอิศวรหรือพระศิวะ โดยเชื่อกันว่าพระแม่อุมาเป็นเทวีที่มีความเมตตากรุณาสูงและรักพระศิวะยิ่งนัก การได้มากราบไหว้ขอพรจากท่าน จึงเป็นการเสริมดวงในเรื่องความรัก ใครที่มีคู่ครองอยู่แล้วก็จะประสบความสำเร็จในการด้านการใช้ชีวิตกับคนรัก ใครที่โสดก็จะได้พบเนื้อคู่เร็วขึ้น

สถานที่ตั้ง วัดพระศรีมหาอุมาเทวี  2 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร

เวลาที่ควรมาสักการะ วัดแขกจะเปิดให้สักการะทุกวัน โดยเวลาเปิด วันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 6.00-20.00 น. วันศุกร์ เวลา 6.00-21.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 6.00-20.30 น. ในช่วงวันขึ้น 1-9 ค่ำ ของทุกๆ ปี ประมาณเดือนตุลาคม รวม 9 วัน 9 คืนนั้น เป็นเป็นช่วงเวลาของเทศกาลดูเซร่า หรือนวราตรี ของชาวฮินดู ซึ่งเป็นงานแห่พระแม่อุมา และเชื่อกันว่าในช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่พระแม่และขบวนเทพจะเสด็จมายังโลกเพื่อประทานพรให้กับมนุษย์

สิ่งที่ควรนำมาถวาย ห้าม! นำของคาว เข้าบริเวณโบสถ์ ส่วนของไหว้ทางวัดจะจัดลงถาดไว้ให้ ราคาถาดละ 60 บาท ในถาดจะมีธูป เทียน พวงมาลัยดาวเรือง นม กล้วย มะพร้าว อ้อย จุดขายจะอยู่บริเวณหน้าทางเข้าโบสถ์เลย เงินที่ได้เค้าเอาไว้บำรุงวัด และสร้างสิ่งต่างๆ แต่หากอยากถวายเพิ่มสามารถเตรียมไปเองหรือหาซื้อเพิ่มได้ที่บริเวณรอบนอกมีขายแต่ราคาสูงกว่าเล็กน้อย

การเดินทาง สามารถนั่ง bts ลงสถานีศาลาแดง ทางออกที่ 2 จากนั้นนั่งรถสาธารณะไปตามถนนสีลม โดยวัดแขกจะอยู่ที่มุมถนนสีลมและถนนปั้น นอกจากนี้ยังมีรถประจำทางสาย 17,77,115,163,164,504 ผ่านด้วย

ข้อห้าม   1.ห้าม! นำของคาว เข้าบริเวณโบสถ์ ในที่นี้หมายถึงเนื้อสัตว์ทุกชนิดคะจะ ถวายได้เฉพาะ นม ผลไม้ ขนมอินเดียที่ทำจากนมน้ำตาลต่างๆ ดอกไม้ ห้าม มีเนื้อสัตว์คะ ฮินดูถือมากคะ

2.ผู้หญิงมีประจำเดือนห้ามเข้าบริเวณโบสถ์ค่ะ ทางที่ดีควรเลือกไปไหว้ ในช่วงไม่มีรอบเดือนดีกว่า ทางศาสนาจะเชื่อและถือว่า กายของหญิงที่มีรอบเดือนเป็นกายที่ไม่สะอาด ในช่วงนั้นถือว่าลบหลู่สถานที่รวมถึงเทพ/เทวีอันศักดิ์สิทธิ์ด้วยค่ะ แต่ถ้าใครมีใจศรัทธาไปไหว้โดยยไม่ทราบมาก่อน หรือไม่เจตนาจริงๆ ก็ไม่ต้องคิดมากคะ ไม่เจตนา/ไม่ทราบไม่ผืดคะ

3. สถานที่ไหว้พระขอความรัก พระแม่ลักษมี (เกษรพลาซ่า แยกราชประสงค์)

ภาพจาก http://www.khanpak.com/content/24832/

 

พระแม่ลักษมี” เป็นเทพนารีผู้มีน้ำพระทัยเมตตาอยู่เป็นนิจ เป็นตัวอย่างแห่งสตรีที่งามพร้อมทั้งรูปและกิริยามารยาท มีวาจาไพเราะ ทั้งถือกันว่าเป็นผู้นำมาซึ่งความเจริญทุกประการ และพระแม่เป็นชายาที่ซื่อสัตย์ของพระนารายณ์และทรงเป็นที่รักยิ่งของพระสวามี ทำให้ผู้คนต่างศรัทธาและหลั่งไหลกันมาสักการะขอพรในเรื่องความรัก มีความเชื่อว่าไม่เพียงขอให้ได้สมหวังในเรื่องของความรักกับคนที่เรารักแล้วนั้น ยังได้ในเรื่องของรักแท้และซื่อสัตย์กับเราเพียงคนเดียวอีกทางหนึ่ง

สถานที่ตั้ง อยู่ที่ดาดฟ้าชั้น 4 เกษรพลาซ่า ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

เวลาที่ควรมาสักการะ พระแม่ลักษมีที่เกษรวิลเลจ เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าสักการะได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.

สิ่งที่ควรนำมาถวาย ของไหว้ได้แก่ธูป 9 ดอกและบัวสีชมพู ส่วนของที่นิยมนำมาแก้บนคือ น้ำอ้อย หรือผลไม้รสอ่อนๆ เช่น มะพร้าว ขอแนะนำให้เตรียมเครื่องสักการะที่ต้องการไหว้มาเอง เพราะบริเวณนี้ไม่มีร้านค้าจำหน่ายของไหว้เหมือนเทวสถานแห่งอื่น

การเดินทาง วิธีเดินทางไปเกษรวิลเลจที่สะดวกที่สุด คือใช้บริการรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีชิดลม จากนั้นเดินต่อไปตามทางเชื่อม BTS Skywalk อีกราว 150 เมตร

 

4. สถานที่ไหว้พระขอความรัก พระกฤษณะ วัดเทพมณเฑียร (เสาชิงช้า)
10 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ขอพรความรัก
                       ภาพจาก http://www.siamganesh.com/hindusamaj.html
พระกฤษณะ เป็นเทพอีกองค์หนึ่งที่สาวโสดหรือผู้อยากสมหวังในเรื่องของความรัก ต้องอย่าพลาดเป็นเด็ดขาด เพราะท่านขึ้นชื่อมากในเรื่องของการให้พรความรัก มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าสมหวังด้านความรักมาหลายรายแล้ว และมีความเชื่อว่าเมื่อท่านยามใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์ ท่านมีสนมมากถึง 10,000 คน แต่ถึงอย่างไรท่านก็มีจิตใจรักมั่นต่อนางราดานะคะ หญิงเลี้ยงวัว เป็นรักแรกแห่งกฤษณะ ทำให้ความรักครั้งนั้นประทับใจและฝังอยู่ในใจของพระกฤษณะตลอดจนชั่วอายุขัย   ใครที่อยากไปสักการะองค์พระกฤษณะ สามารถไปได้ที่วัดเทพมณเฑียร บริเวลาข้างโรงเรียนเบญจมราชาลัย ชั้น 3 จะเป็นเทวาลัย สามารถสักการะได้ตั้งแต่เช้าถึงเที่ยงประมาณเที่ยงวัน และช่วงบ่ายสามถึงหนึ่งทุ่ม ซึ่งการบูชาจะต้องเตรียมดอกไม้ธูปเทียนไปให้เรียบร้อย เนื่องจากที่วัดไม่มีจำหน่าย

 

สถานที่ตั้ง :  โบสถ์เทพมณเฑียร  จะอยู่ใกล้กับเสาชิงช้า ฝั่งตรงข้ามกับวัดสุทัศน์เทพวราราม

เวลาที่ควรมาสักการะ  เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-20.00 มีเวลาปิด 3 ชั่วโมง ระหว่างเที่ยง-บ่ายสาม
พิธีกรรมภายในวัดเทพมณเฑียรในแต่ละวัน เรียกว่า “พิธีอารตี” คือการถวายไฟแก่ทวยเทพ มีขึ้นทุกวันตั้งแต่ 06.00-08.00 น. (ในวันอาทิตย์ มีจนถึง 10.00 น. หรือ 11.30 น.) และตอนเย็นของทุกวันตั้งแต่เวลา 18.30-19.30 น. ผู้ศรัทธาสามารถเข้าร่วมพิธีกรรมได้โดยไม่ต้องขออนุญาต

สิ่งที่ควรนำมาถวาย แนะนำให้ถวายเงินตามกำลังศรัทธาเพื่อช่วยบำรุงโบสถ์
การถวายดอกไม้ พวงมาลัย ขนมต่างๆ ให้จัดเตรียมไปเอง เนื่องจากไม่มีจำหน่ายภายในวัด

การเดินทาง วัดเทพมณเฑียรตั้งอยู่ในโรงเรียนภารตวิทยาลัย (ใกล้กับโบสถ์พราหมณ์ เสาชิงช้า)เมื่อเดินทางถึงโรงเรียนภารตวิทยาลัย ให้แจ้งความประสงค์แก่ รปภ. หน้าโรงเรียนว่าต้องการมาไหว้พระจากนั้นขึ้นลิฟท์หรือบันไดด้านใน ไปยังชั้น 3 จะพบโบสถ์อยู่ภายใน เข้าไปไหว้เทพได้ทุกพระองค์มีชาวไทยไปสักการะเทพและนั่งสมาธิทุกวัน พราหมณ์และเจ้าหน้าที่ภายในยินดีเบิกเนตรเจิมองค์พระให้

 

5. ศาลย่านาค วัดมหาบุศย์

     ภาพจาก http://thailandtopvote.com/wp-content/uploads/2016/05/prakanhong4.jpeg

 

ตำนานความรักอมตะที่สืบต่อมายาวนาน ในเรื่องความรักที่มั่นคงของหญิงสาวนามว่า “นาค” และชายหนุ่มนามว่า “มาก” และสืบเนื่องจากตำนานเก่าแก่นี้ ทำให้มีศาลของย่านาคอยู่ที่ วัดมหาบุศย์ ย่านพระโขนง มีคำร่ำลือว่า ใครที่มาขอพรเรื่องความรักมักจะสมหวังหรือแม้กระทั่งเรื่องไปจับใบดำใบแดงเกณฑ์ทหารก็สัมฤทธิ์ผลมานักต่อนักแล้ว

สถานที่ตั้ง วัดมหาบุศย์ ซอยสุขุมวิท 77 (ถนนอ่อนนุช) เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร
เวลาที่ควรมาสักการะ  ศาลแม่นาคพระโขนง เปิดให้สักการะบูชาทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7:30 – 17:30

การสักกะระบูชา ให้จุดธูป 2 ดอก พร้อมดอกไม้หรือพวงมาลัย โดยอาจจะซื้อผ้าเจ็ดสีเจ็ดศอกมาพันรอบต้นไม้ บางคนถวายของไหว้ เช่น ชุดไทย สำหรับแม่นาค หรือชุดเด็กและของเล่นเด็กสำหรับลูกแม่นาค บางคนก็เอารูปวาดที่จินตนาการว่าเป็นแม่นาคมาถวาย รูปแบบของการบูชาก็แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละคนค่ะ

การเดินทาง นั่งรถไฟ้ฟ้า BTS มาลงที่สถานีอ่อนนุช  จากนั้นเดินลงบันไดทางประตูออกที่ 1 และเรียกรถสาธารณะบอกไปวัดมหาบุศย์ บริเวณนั้นจะมีรถสองแถว มอเตอร์ไซค์รับจ้างให้บริการค่ะ

 

6. ศาลขวัญ-เรียม

    ภาพจาก http://thailandtopvote.com/wp-content/uploads/2016/05/prakanhong4.jpeg

 

คลองแสนแสบแห่งทุ่งบางกะปิ ต้นกำเนิดภาพยนตร์ตำนานรักอันน่าเศร้า ที่เล่าขานว่าเรียมนั้นใช้มีดแทงตัวตายตามอ้ายขวัญ หนุ่มคนรัก ณ ท้องน้ำ อันเป็นที่พลอดรักของคนทั้งคู่ และท้องน้ำแห่งคลองแสนแสบนี้เอง ยังเป็นสายน้ำที่ไหลสู่ศาลเจ้าพ่อไทร สถานที่ที่ขวัญกับเรียมเคยสาบานว่า จะรักกันตราบจนความตายจะมาพรากจาก…

จากเรื่องเล่าขานกลายเป็นตำนานมีชีวิต เมื่อชาวบ้านได้นำรูปปั้นขวัญ-เรียมขี่ควาย มาไว้ข้างๆ กับศาลต้นไทร สถานที่ที่คนทั้งคู่เคยสาบานว่า จะรักกันจวบจนควาวามตายจะมาพรากจาก
ศาลแห่งนี้ตั้งเป็นอนุสรณ์ให้รู้ว่า เมื่ออดีต ที่นี่เคยเป็นจุดเริ่มต้นความรักที่ไม่สมหวังของหนุ่มสาวแห่งทุ่งบางกะปิ เมื่อ 78 ปีก่อน จากตำนานเรื่องราวความรักของขวัญ-เรียมนี้เอง ทำให้มีคนจำนวนมาก พากันมาไหว้สักการะขอพรความรัก

สถานที่ตั้ง  ตลาดนํ้าขวัญเรียม ริมคลองแสนแสบ ระหว่างซอยเสรีไทย 60 และ ซอยรามคำแหง 187 บริเวณวัดบำเพ็ญเหนือ และ วัดบางเพ็งใต้

เวลาที่ควรมาสักการะ  เปิดทำการวัน เสาร์- อาทิตย์ และ วันหยุด นักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 6:00 น. – 18:00 น. ตักบาตพระทางเรือ 7.30-8.00 น. HOTLINE : 081-357-1545  จันทร์-ศุกร์   เวลา ราชการ

การสักกะระบูชา ให้จุดธูป 3 ดอก นิยมถวายนํ้าแดง ดอกไม้ ดอกบัว พวงมาลัย หุ่นรูปปั้นควาย

การเดินทาง  

เส้นทางที่ 1 ถนนสุขาภิบาล 2 (เสรีไทย) รถเมล์ 27 ปอ.502 รถยนต์ส่วนตัว มีที่จอด วิ่งตรงมาจาก The Mall บางกะปิ ผ่านสวนสยามจะเจอปากทางเข้าวัดเลี้ยวเข้ามาได้เลย วัดบำเพ็ญเหนือทางด้านขวา ต้องไปเลี้ยวกลับ

เส้นทางที่ 2 ถนนสุขาภิบาล 3 (รามคำแหง) รถเมล์สาย 113 และ 58 ปอ.113 และ 514

ถ้าเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : วิ่งตรงมาจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ผ่านแยกบ้านม้า ผ่านซอยมิสทีนมาวัดบางเพ็งใต้จะอยู่ทางซ้ายมือ รถยนต์ส่วนตัวที่มาเที่ยวทางตลาดน้ำขวัญเรียม ทางตลาดมีที่จอดรถให้ฟรี

7. สถานที่ไหว้พระขอความรัก พระนอน- วัดโพธิ์
พระนอน - วัดโพธิ์ รวมสถานที่ไหว้พระขอพรความรัก
pha non wat pho - ไหว้พระขอพรความรัก
                                   ภาพจาก http://www.edtguide.com/travel/76868/
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือ ที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ “วัดโพธิ์”  ที่วัดแห่งนี้นอกจากจะขึ้นชื่อในเรื่องการขอโชคลาภและความสำเร็จแล้ว ยังมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างมาอีกว่าการไปไหว้พระนอนวัดโพธิ์ช่วยทำให้หลายคนสมหวังในเรื่องความรักด้วย โดยเฉพาะปีไหนที่ผู้หญิงอายุขึ้นเลข 3 เพราะดาวเลข 3 คือ ดาวความรักของผู้หญิง จึงแนะนำให้ผู้หญิงไปขอพรกับพระนอน ซึ่งจะมีสิทธิ์เจอคู่และแต่งงานและต้องเป็นพระนอนที่วัดโพธิ์ด้วย เพราะศักดิ์สิทธิ์มาก เพราะตามศาสตร์ เลข 3 คือ พระนอน พระนอนเป็นปางของพระนารายณ์บรรทมสินธุ์ หรือศาสตร์ความเชื่อที่เชื่อว่าเลขสามเปรียบเสมือนของความรักของหญิงสาวเช่นกัน

สถานที่ตั้ง : วัดพระเชตุพน วิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร 2  ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง. เขตพระนคร กรุงเทพฯ

เวลาที่ควรมาสักการะ  เปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา : 08.00 – 18.00 น

การสักกะระบูชา ควรไหว้วันอังคาร เพราะเลข 3 คือ วันอังคาร ขนมจีน 3 จับ กับน้ำยาปลา ธูป 8 ดอก เทียนสีผึ้ง 8 เล่ม ดอกบัว 8 ดอก และเงินอีก 8 บาท เมื่อไหว้แล้วให้รอธูปหมด เสร็จแล้วลาขนมจีน เอามากิน เส้นขนมจีนยาวๆ เสมือนสายใยให้ไปเจอะคู่ของตัวเอง

การเดินทาง  วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ตั้งอยู่ริมถนนสนามไชยและถนนมหาราช ติดกับพระบรมมหาราชวัง

 

8. พระธาตุศรีสองรัก จังหวัดเลย

พระธาตุศรีสองรักภาพจาก http://www.touronthai.com/article/94

 

พระธาตุศรีสองรัก เป็นปูชนียสถานสำคัญที่สุดของจังหวัดเลย ซึ่งก่อด้วยอิฐ สร้างขึ้นในแผ่นดินสมเด็จพระมหาจักรพรรดิผู้ครองกรุงศรีอยุธยาและพระเจ้าไชยเชษฐาผู้ครองกรุงศรีสัตนาคนหุต (เวียงจันทน์) เพื่อเป็นสักขีพยานแห่งความรัก ความสามัคคี สัจจะมิตรไมตรี และเป็นหลักเขตแดนของสองพระนคร

มูลเหตุที่สร้างพระเจดีย์นี้ ด้วยสมัยนั้นพม่ามีกษัตริย์ทเข้มแข็งในการสงคราม คือพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ และพระเจ้าบุเรงนอง ได้ยกกองทัพมารุกรานกรุงศรีอยุธยา และกรุงศรีสัตนาคนหุต สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ กับพระเจ้าไชยเชษฐา จึงกระทำสัตย์ปฏิญาณต่อกันเพื่อร่วมรบกับพม่า และเป็นที่ระลึกในการทำพระราชไมตรี จึงได้ร่วมกันสร้างพระเจดีย์ไว้เป็นสักขีพยาน ให้ชื่อว่า “พระธาตุศรีสองรัก”ซึ่ง พระธาตุศรีสองรัก นี้มีความเชื่อมายาวนานเกี่ยวกับการขอพรเรื่องความรักและมิตรภาพ

สถานที่ตั้ง : ทางหลวงหมายเลข 2013 อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย

เวลาที่ควรมาสักการะ เวลาเปิด-ปิด 8.00–16.30 น.

การสักการะบูชาพระธาตุ ตามธรรมเนียมปฏิบัติของที่นี่ จะมีการนำเอาเครื่องบูชาพระธาตุมาถวายด้วยการเดินเวียน 3 รอบแล้ววางไว้ที่ฐานของพระธาตุศรีสองรัก เครื่องบูชานี้เรียกว่า “ต้นผึ้ง” ประดิษฐ์จากโครงไม้ไผ่เป็นทรงหอปราสาทขนาดกว้างราว 2 ฟุต สูง 2 ฟุตเศษ กรุรอบด้วยลวดลายงานแทงหยวกจากนั้นประดับด้วย “ดอกผึ้ง” ซึ่งทำจากแผ่นเทียนกลมๆ บางๆ ตากแดดแล้วจับเป็นกลีบ ตรงกลางติดดอกบานไม่รู้โรย หรือขมิ้นหั่นเล็กๆ ต่างเกสรดอกไม้สีสดใส และ เทียนเวียนหัว (เทียนแท่งที่ฟั่นยาวพอคาดได้รอบศีรษะ)

ถ้าใครมาบนบานศาลกล่าวแล้วแก้บนด้วยการถวายต้นผึ้งจะได้สมปรารถนา  ข้อปฏิบัติเกี่ยวกับองค์พระธาตุศรีสองรัก คือ ไม่ควรนำสิ่งของหรือดอกไม้สีแดงขึ้นบูชา ไม่ควรแต่งกายด้วยชุดสีแดงขึ้นไปนมัสการ เพราะองค์พระธาตุสร้างขึ้นเพื่อสัจจะและไมตรี สีแดงเป็นสัญญลักษณ์ของเลือดและความรุนแรง ไม่ควรกางร่ม สวมหมวกและสวมรองเท้าขึ้นไปบนพระธาตุ ไม่ควรนำเด็กต่ำกว่า 3 ปีขึ้นไปนมัสการ (หมายเหตุ : ก่อนท่านจะทำหรือประกอบพิธีใดๆ ที่เกี่ยวกับองค์พระธาตุขอให้ปรึกษาเจ้าหน้าที่ที่เฝ้าองค์พระธาตุก่อน)

การเดินทาง  พระธาตุศรีสองรักตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหมัน ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 1 กิโลเมตร หรือห่างจากตัวจังหวัด 83 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงหมายเลข 203 แล้วแยกขวาตรกิโลเมตรที่ 66 เข้าทางหลวงหมายเลข 2013 อีก 15 กิโลเมตร ถึงอำเภอด่านซ้ายจากนั้นแยกขวาเข้าเส้นทาง 2113 อีก 1 กิโลเมตร ติดต่อสอบถาม:ททท.สำนักงานเลย โทร. 0 4281 2812,0 4281 1405

 

9. เจ้าแม่เขาสามมุก จังหวัดชลบุรี

เจ้าแม่เขาสามมุก                                              ภาพจาก http://www.chonburimots.go.th/th

จากตำนานหนุ่มแสนกับสาวมุข คู่รักต่างฐานะที่ได้พบรักกันแต่กลับถูกผู้ใหญ่กีดกันจนไม่สามารถครองคู่กันได้กลายเป็นโศกนาฏกรรมแสนเศร้าและกลายเป็นศาลเจ้าแม่เขาสามมุข สถานที่กราบไหว้ขอพรเรื่องความรักของหนุ่มสาวทั้งหลาย จนมาถึงทุกวันนี้โดยเชื่อกันว่าหากคู่รักที่มีความมั่นคง และซื่อสัตย์ต่อกันนำว่าวมาเขียนชื่อตนเองและคนรัก มาถวายก็จะได้ครองรักกันยืนยาวตลอดไป

สถานที่ตั้ง ถนนเลียบเขาสามมุข ใกล้หาดบางแสน อำเภอเมืองฯ จังหวัดชลบุรี

เวลาที่ควรมาสักการะ  เขาสามมุขเป็นพื้นที่สาธารณะจึงผ่านไปชมได้ตลอดเวลาแต่กลางคืนค่อนข้างเปลี่ยว แนะนำให้ไปกราบไหว้ในเวลากลางวันถึง 18.00 น.

การสักการะบูชา  ควรถวายมะพร้าวอ่อน ขนมครกผลไม้ และพวงมาลัย ที่ขาดไม่ได้คือ “ว่าว” ซึ่งตามตำนานว่าวเป็นสื่อที่ทำให้แสนและมุขได้มาพบรักกันให้นำว่าวมาเป็นเครื่องบูชาโดยเขียนชื่อของตัวเองกับคนรักไว้บนนั้นแล้วนำไปแขวนไว้บริเวณศาลเจ้า

การเดินทาง  เขาสามมุขไม่มีรถสองแถววิ่งผ่าน  ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก  แต่สามารถเช่ารถสองแถวจากตลาดหนองมนให้ไปส่งแล้วรอรับกลับได้

– จากอ่างศิลาไปตามทางหลวงหมายเลข 3134 อีกราว 3 กิโลเมตร พบป้ายบอกทางไปเขาสามมุข เลี้ยวขวาไปตามป้ายอีก 1 กิโลเมตร จนถึงศาลเจ้าแม่สามมุข

– จากหาดบางแสน ใช้ถนนเส้นเลียบหาดมุ่งตรงสู่แหลมแท่น จะมีป้ายบอกไปตลอดทาง ห่างจากหาดบางแสนราว 2 กิโลเมตร

 

10.  กู่เจ้าน้อย ศุขเกษม – วัดสวนดอก อ.เมือง จ.เชียงใหม่

ภาพจาก https://board.postjung.com/631601.html

 

เจ้าน้อยศุขเกษม และ มะเมียะ สาวชาวพม่าอันเป็นตำนานเรื่องจริงที่เล่าขานสืบมาของเมืองเชียงใหม่  เมื่อร้อยกว่าปีก่อน เมื่อครั้งที่เมืองเชียงใหม่ยังเป็นประเทศราชกับกรุงสยาม เจ้าแก้วนวรัฐแห่งเมืองเชียงใหม่ได้แอบส่งเจ้าน้อยศุขเกษมไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนเซนต์แพทริก ในพม่า และฟ้าก็ลิขิตให้เจ้าน้อยศุขเกษมให้ได้พบกับมะเมียะสาวแม่ค้าในตลาดทีเพิ่งย้ายมาจากเมืองตองอู ที่ต่างก็รักและได้สาบานต่อกัน ณ ลานหน้าพระธาตุใจ้ตะหลั่น ว่า จะรักกันตลอดไปและจะไม่ทอดทิ้งกัน หากผู้ใดทรยศต่อความรักที่มีให้กัน ก็ขอให้ผู้นั้นอายุสั้น ฝ่ายผู้ใหญ่ทราบเรื่องและเห็นว่าไม่เหมาะสมที่จะคบหากับมะเมียะ และบังคับให้เจ้านายน้อยแต่งงานกับเจ้าหญิงบัวชุมตลอดเวลาเจ้าน้อยรักแต่มะเมียะ และดื่มเหล้าทุกวัน ทำให้สิ้นอายุขัยเมื่ออายุ 33 ปี ส่วนมะเมียะออกบวชและรักษาคำมั่นสัญญาที่มีต่อเจ้านายน้อยจนสิ้นอายุขัย ด้วยตำนานรักนี้เองทำให้มีคนจำนวนมากมาสักการะขอพรในเรื่องความรัก ณ สถานที่แห่งนี้

สถานที่ตั้ง วัดสวนดอก พระอารามหลวง  เลขที่ 139 ถนนสุเทพ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่  จังหวัดเชียงใหม่

เวลาที่ควรมาสักการะ  เวลาเปิด-ปิด 08.00-17.00 น.

การสักการะบูชา  ดอกไม้ ธูปเทียน พวงมาลัย

การเดินทาง การเดินทางโดยทางรถยนต์ส่วนตัว /  จากตัวเมืองเชียงใหม่ไปทางถนนสุเทพ ด้านตะวันตก มุ่งหน้าไปทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผ่านโรงพยาบาลมหาราช แล้วโรงพยาบาลประสาท ทางเข้าวัดสวนดอกจะอยู่ทางซ้ายมือเยื้องๆโรงพยาบาล การเดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะ  / เดินทางโดยการใช้รถโดยสารเชียงใหม่ (รถแดง) บอกว่าลงที่วัดสวนดอก

 

 

สุดท้ายนี้ นอกจากการพึ่งศักดิ์สิทธิ์ ไหว้พระขอพรความรัก อีกสิ่งที่จะทำให้ความรักของเราสองคนมั่นคง ก็คือ ความเข้าใจและการให้อภัย ไม่ว่าจะเป็นความรักของคุณจะเป็นรูปแบบไหน Box Wedding ขออวยพรให้คนโสด เจอเนื้อคู่ไวๆ ส่วนคนที่กำลังมีความรัก ก็ขอมีความสุขสมหวัง รักกับคนรักไปนานๆนะคะ

ในขบวนขั้นหมาก ประกอบด้วยพานอะไรบ้าง

 

สำหรับพิธีการหรือสิ่งของที่ต้องใช้ในงานแต่งงานนั้น บ่าวสาวสมัยใหม่หลายคู่คงไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานตามประเพณีไทยสักเท่าไหร่ วันนี้กระปุกเวดดิ้งเลยมาแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับการจัดเตรียมขบวนขันหมากตามประเพณีไทย รวมทั้งการจัดขบวนแห่ขันหมากต้องลำดับอะไรก่อนหลัง เรามีคำตอบมาบอกกันค่ะ

ประเพณีการจัดขันหมากในงานแต่งงาน ในขบวนจะแบ่งออกเป็น “ขันหมากเอก” และ“ขันหมากโท” ติดตามด้วยเหล่าบริวารขันหมาก ส่วนรูปตามแบบฉบับฝีมือชาววังที่นิยมทำกันนั้น มี 2 แบบ คือ แบบใช้พลูจีบ กับ แบบที่ไม่ใช้พลูจีบ โดยทั้ง 2 แบบ จะใส่หมากพลูเป็นจำนวนคู่ อย่าง คู่ 4 หรือ คู่ 8 นำมาจัดเรียงให้สวยงาม สาเหตุที่ต้องมีการใส่หมากพลูลงไปในพานขันหมาก ก็เพราะในสมัยก่อนนิยมกินหมาก จึงมีการใช้หมากพลูเป็นเครื่องต้อนรับ เพื่อแสดงไมตรีจิต และหมายถึงความยินดีต้อนรับอย่างเป็นกันเองด้วยไมตรีจิต ซึ่งนอกจากพานขันหมากเอกแล้ว ยังมีพานต่าง ๆ ที่ฝ่ายชายจะต้องเตรียมทั้งหมดเพื่อแห่ในขบวนขันหมาก ดังนี้ …

พานขันหมากเอก ประกอบด้วย

 1. พานขันหมาก เป็นพานของฝ่ายชายเชิญมาที่บ้านฝ่ายหญิง ประกอบด้วย พลู 2 พาน ในพานจะมี หมาก 8 ผล, พลู 4 เรียง ๆ ละ 8 ใบ, ถุงเงิน 2 ใบ, ถุงทอง 2 ใบ ข้างในบรรจุ ถั่วเขียว, งาดำ, ข้าวเปลือก, ข้าวตอก และซองเงิน 1 ซอง

ขบวนขันหมาก

 2. พานสินสอด พานทองหมั้น ใช้สำหรับใส่เงิน, ทอง, เพชร, นาค ไว้ในพานเดียวกัน ใช้สองพานหรือ 1 พานก็ได้ ซึ่งพานนี้จะมีผ้าคลุมไว้ ส่วนใหญ่ใช้ผ้าลูกไม้ ภายในพาน นอกจากสินสอดเงินทองแล้ว จะต้องมีใบเงิน, ใบทอง, ใบนาค, กลีบกุหลาบ, กลีบดาวเรือง, กลีบบานไม่รู้โรย, ดอกมะลิ, ดอกรัก, ถุงเงิน และถุงทอง

ขบวนขันหมาก

 

ขบวนขันหมาก

 3. พานแหวนหมั้น ใช้พานขนาดเล็กซึ่งจะมีการออกแบบที่รองแหวนด้วยการจัดประดับพานด้วยดอกไม้ เพื่อความสวยงามด้วย

 4. พานธูปเทียนแพ ไม่ต้องทำขนาดใหญ่มากจนเกินไป เพื่อจะใช้พานนี้ในการรับไหว้ ผู้ใหญ่ด้วยก็สามารถทำได้เช่นกัน

ขบวนขันหมาก

 5. พานผ้าสำหรับไหว้ หรือพานธูปเทียนแพ จำนวนแล้วแต่จะกำหนด ซึ่งพานไหว้ผู้ใหญ่ในสมัยก่อนจะใช้พานธูปเทียนแพเท่านั้น แต่ในปัจจุบัน จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกเป็นผ้าขาวสำหรับนุ่ง 1 ผืน และผ้าสำหรับห่ม 1 ผืน เทียน และธูปหอม ดอกไม้ 1 กระทง อันนี้สำหรับเซ่นไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว แต่ถ้า ยังมีชีวิตอยู่ไม่ต้องจัดพานดังกล่าว แต่จะจัดในส่วนที่สอง คือสำรับที่จะใช้ไหว้ ญาติผู้ใหญ่ พ่อและแม่ของทั้งสองฝ่าย โดยการใช้ผ้าขาวสำหรับนุ่งและผ้าห่ม อย่างล่ะ 1 ผืน หรือจะใช้เสื้อผ้า หรือของอื่น ๆ แทนก็ได้ แต่ไม่ต้องใช้ธูปเทียนและดอกไม้

 6. พานเชิญขันหมาก 1 พาน โดยจะให้เด็กผู้หญิง ฝ่ายเจ้าสาวถือต้อนรับขันหมาก นำขันหมากเจ้าบ่าว

ขบวนขันหมาก

 7. ร่มสีขาว 2 คัน โดยจะให้เฒ่าแก่ 2 ฝ่ายถือ

 8. ช่อดอกไม้เล็ก ๆ สำหรับเจ้าบ่าวถือ

 9. พานต้นกล้วย 1 คู่ ต้นอ้อย 1 คู่ เพื่อสื่อถึงให้คู่บ่าวสาวทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรือง นอกจากนี้ ต้นกล้วยยังหมายถึงให้มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง ทั้งนี้ ส่วนใหญ่แล้วจะใช้เป็นต้นเล็กนำมาให้เฒ่าแก่ฝ่ายเจ้าบ่าวเป็นคนถือ

  พานขันหมากโท หรือขันหมากบริวาร ประกอบด้วย…

 1. พานขนมมงคล 9 อย่าง จำนวน 2 พาน อาทิ ทองหยิบ, ทองหยอด, ฝอยทอง, ทองเอก, ขนมจ่ามงกุฎ, ขนมเสน่ห์จันทร์, ขนมลูกชุบ, ขนมหม้อแกง, ขนมข้าวเหนียวแดง, ขนมข้าวเหนียวแก้ว และขนมชั้น ซึ่งในสมัยก่อนจะใช้ขนมโบราณ อย่าง ขนมกง, ขนมทองเอก, ขนมชะมด, ขนมสามเกลอ, ขนมโพรงแสม, ขนมรังนก ซึ่งปัจจุบันหายากแล้ว และหลายคนก็ไม่รู้จักแล้ว ส่วนขนมที่ไม่นิยมนำมาใช้ในงานมงคล คือ ขนมต้มแดง ต้มขาว

ขบวนขันหมาก

 2. พานไก่ต้ม พานหมูนอนตอง

 3. พานวุ้นเส้น 1 คู่

 4. พานมะพร้าว 1 คู่

 5. พานกล้วยหอม (จำนวนหวีต้องเป็นคู่) และส้ม 1 คู่

 6. พานส้มโอ 1 คู่

 7. พานชมพูเพชร 1 คู่

 8. พานคู่ขนมเสน่ห์จันทร์หรือขนมเปี๊ยะ 1 คู่

 9. พานขนมกล่อง จำนวนตามญาติผู้ใหญ่ที่เราจะแจก ซึ่งจะใช้ขนมอะไรก็ได้แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละบ้าน

  พานผ้าเครื่องเซ่นไหว้บรรพบุรุษ ประกอบด้วย

 1. ธูป 5 ดอก เทียน 2 เล่ม

 2. มะพร้าวอ่อน 1 คู่, กล้วยน้ำหว้า 2 หวี, ไก่ต้ม 1 ตัว, หมูนอนตอง 1 ที่

 3. เหล้า 1 คู่

 4. ผ้าขาว 1 พับ (ประมาณ 4 ศอก หรือ 2 เมตร)

คุยยังไง…ให้ได้คบ

คุยมานานแต่ก็ยังไม่ได้คบสักที จัดเป็นปัญหาความรักของคนโสดระดับต้นๆเลยก็ว่าได้ วัดได้จากกระแสแฮชแทค #คุยยังไงให้ได้คบ ในทวิตเตอร์ที่มีการพูดคุยกันอย่างเมามันส์ และไม่ใช่แค่เฉพาะผู้ชายเท่านั้นที่ี๋ประสบปัญหานี้ เพราะผู้หญิงก็เจอเหมือนกันค่ะ ทำไงได้อะเนอะโลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ใครจีบใครก่อนไม่ใช่เรื่องแปลกแล้วล่ะสมัยนี้ แต่จะคุยหรือจีบยังไงให้ได้คบนี่สิ ประเด็นหลัก! บางคนคุยมาสี่ห้าเดือน บางคนคุยมาจะปี ลองขอคบก็แล้ว เขาก็ยังไม่ตอบตกลงสักที ให้เราเป็นได้แค่เพื่่อนที่แสนดีเท่านั้น……
เอาหล่ะๆอย่าพึ่งท้อใจไป วันนี้แอดเอา “5 Step คุยยังไง…ให้ได้คบ” มาแนะนำกัน จะมี step อะไรบ้างนั้น อย่ารอช้า ลุยเลยดีกว่า…

ที่มา : https://pantip.com/topic/36188596

Step 1 ชวนไปเดท เจอตัวไปเลยจะได้รู้สักที

คุยมาก็นานแสนนานนนนน…ก็ยังไม่มีวี่แววจะได้คบ ขอแนะนำให้ลองชวนไปเดทดู แอดว่าการคุยไลน์ คุยโทรศัพท์ ไม่ว่าเขาตอบไว จะโทรถี่แค่ไหน มันเทียบไม่ได้เลยกับการมาเจอหน้าและใช้เวลาร่วมกัน เคยได้ยินไหมที่เขาบอกกันว่า คุยมานานแค่ไหน แต่พอมาเจอหน้าก็เหมือนกับต้องนับหนึ่งใหม่ทั้งหมด ดังนั้นถ้าคุยมานานแล้วยังไม่ได้คบสักที ลองชวนไปเดทดู อย่างน้อยถึงไม่ได้คบก็ยังเคยได้ใช้เวลาร่วมกัน คิดในแง่ดีละกันเนอะ ^^

 

ที่มา : http://www.popcornfor2.com/content/

Step 2 ถ้าโดนปฏิเสธก็อย่าพึ่งท้อใจไป

หลังจากลองชวนไปเดทแล้ว แล้วถ้าเขาไม่ไปละ 555 นี่ก็เงิบเบาๆ แต่อย่าพึ่งท้อ ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก แต่อย่าไปเซ้าซี่จนน่าเบื่อนะ หาจังหวะและโอกาสดีๆ ลองช่วงใหม่ ลองหาความสนใจของเขา และลองชวนไปในที่ที่เขาอยากไปดู อย่างเช่น เขาชอบทานปิ้งย่าง ก็ลองเสนอร้านปิ้งย่างที่เขาชอบดู นอกจากเขาอาจจะตอบรับคำชวนคุณแล้ว เขาอาจจะมองว่าคุณเป็นคนที่ใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยของเขาด้วยนะ แบบนี้อะได้คะแนนไปเต็มๆ

 

ที่มา : https://pantip.com/topic/36188596

Step 3 อย่าลืมเป็นตัวของตัวเอง

ถ้าได้ไปเดทแล้ว การเป็นตัวของตัวเองนั้นแหละ ดีที่สุดแล้ว เพราะสุดท้ายถ้าเราเป็นตัวของตัวเอง เราก็จะสบายใจ และเชื่อว่าพลังแห่งความสบายใจของเราจะส่งผลไปยังคนที่มาเดทกับเราแน่นอน และเมื่อเราเป็นความสบายใจให้เขาแล้ว ก็เข้าตำราที่ว่าเมื่อเราอยู่กับใครแล้วสบายใจก็อยากจะอยู่กับคนนั้นไปนานๆ แต่นานๆนี่แบบไหนมันอยู่ที่เขาอีกนั้นแหละ งื้ออ TT

 

Image result for เดท ซีรีย์ น่ารัก

ที่มา : https://pantip.com/topic/36188596

Step 4 ฉันรู้นะ…ว่าเธอคิดอะไรอยู่

พอได้ไปเดทแล้ว คุยไลน์ คุยโทรศัพท์ วีดีโอคอลก็แล้ว เรียกได้ว่าทำหมดทุกทางแล้ว คุณต้องรู้สึกอะไรเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคุณบ้างแล้วแต่แอดขอยํ้านะคะ ว่าอย่าหลอกตัวเอง คุณจะรู้เลยว่าเขาคิดยังไงกับคุณ จะเอายังไงต่อดี ไปต่อหรือหยุด ถ้าคุณรู้สึกว่าเขาเริ่มชอบคุณแล้ว ไปในทิศทางเดียวกัน คุณก็พยายามทำคะแนนไปเรื่อยๆ แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับคุณ เริ่มมาๆหายๆ คุณก็เตรียมตัดใจและหาคนใหม่ได้เลย

 

ที่มา : https://pantip.com/topic/36188596

Step 5 เธอจะมีหรือเปล่า

ถ้าเขาดูเหมือนจะมีใจ แต่ก็ยังกํ้ากึ่งอยู่ ไม่ชัดเจนสักที จะเอายังไงดี แอดขอแนะนำวิธีนี้เลย คือ การลองใจ ลองหายไปเลย ถ้าเขาเริ่มชอบคุณเขาจะเริ่มออกตามหาคุณ หรืออย่างน้อยก็ต้องมีปฎิกริยาอะไรบ้าง แต่ถ้ายังเงียบกริบ แอดแนะนำว่าตัดใจ เดินออกมาอย่างสวยๆหล่อๆ และหาคนใหม่ดีกว่า แต่ถ้าคุณยังอยากสู้อยู่ ก็ลองทำให้สุด เพราะสุดท้ายถ้ามันไม่ได้จริงๆ คุณก็จะหยุดไปเอง ถือคติว่า “ไปให้สุด ถ้าไม่ได้ก็หยุดละหาใหม่” แค่นั้นเองงง…

 

ลองทำกันดูนะคะ สำหรับ 5 step คุยยังไงให้ได้คบที่แอดแนะนำไป จะบอกว่าวิธีการนี้แอดแนะนำเพื่อนๆมาหลายต่อหลายคนแล้วนะ มีทั้งได้คบ และได้คนใหม่มาคบ 55 เอาเป็นว่าสุดท้ายแล้วจะคบหรือไม่ได้คบ ก็ให้คิดซะว่าอย่างน้อยเราก็เคยมีช่วงเวลาดีๆร่วมกัน เป็นเพื่อน เป็นพี่น้องกัน และฝากไว้ให้คิสสสสนิดนึงว่า รักใครก็ตามต้องไม่ลืมรักตัวเอง เพราะถ้าเราเป็นอะไรไป คนที่เสียใจมากที่สุดไม่ใช่คนที่ไม่รักเรา แต่คือพ่อแม่ที่รักเรามากที่สุดนั้นเอง ทำอะไรก็คิดให้ดีดีนะคะทุกคน รักน้ารู้เปล่า จุ้บๆ